วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

พุทธทำนาย ( Buddha’s prophecy )


ทำนาย (Buddha’s prophecy)
แยกตามเวลาของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น

ข้อมูลจาก เว็บ metteya.org เกี่ยวกับ พุทธทำนายต้นฉบับ ซึ่งสามารถสังเกตได้จาก พระพุทธเจ้า ตรัสปี พ.ศ. ที่จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ กำกับไว้อย่างชัดเจน แต่ทาง metteya.org จะไม่ถือข้อมูลถูก หรือถือว่าผิดประการใด ถ้าท่านนำข้อมูลไปใช้ ขอได้ทบทวนกันเองตามอัธยาศัย 

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับ พุทธทำนายต้นฉบับนี้มี ท่านเจ้าคุณฯ วัดบวรนิเวศวิหาร หรือ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และ ผู้ใหญ่ระดับสูงหลายท่าน และ อาจารย์ที่จุฬาฯ ได้จัดทำตามฉบับที่ไปคัดลอกมาจาก ประเทศอินเดีย และ เว็บ metteya.org จะแสดง พ.ศ. ตามด้วยปีที่แก้ไขแล้วกำกับไว้ด้วย 

จากการที่ พ.ศ.ไทย ใช้ 543 + กับ ปี ค.ศ. นั้นมีหลักฐานปรากฏอยู่เฉพาะใน สีหฬภาษาใหม่จริง แต่ไม่มีปรากฏใน สีหฬภาษาเก่า เรื่องนี้อาจเป็นข้อมูลหนึ่งที่ องค์การวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์หลายแห่ง ยกขึ้นเป็นประเด็น ไม่ยอมรับ พ.ศ.ไทย

ที่เว็บ metteya.org มี ปธ.๙ และ อาจารย์หลายท่าน ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่องราวในพระไตรปิฎก เรื่องราวในพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์อินเดียและกรีก หลักฐานโบราณคดีที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการเกิดเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้ว สรุปว่า พ.ศ. ที่ควรมีความถูกต้อง จะต้องแก้ไขอย่างไร และ ได้ทดลองนำไปใช้ใน พุทธทำนาย เห็นว่ามีความสอดคล้องกันกับเหตุการณ์ในปัจจุบันจริง มีความเป็นเหตุผล

นอกจากนี้ ยังมีความสอดคล้องกับ คำพยากรณ์ของมายันและอเมริกันอินเดียน เมื่อประมาณ 3000 ปีมาแล้ว และ ยังสอดคล้องกับคำทำนายโลกอื่นๆ เกี่ยวกับการมาปรากฏของ พระธรรมมิกราช ทำให้เกิดศรัทธาในพุทธทำนายยิ่งขึ้น

เรื่องที่กล่าวมา ทาง metteya.org ไม่สนับสนุนให้ท่านได้เชื่อ ตามหลักกาลามสูตรของพระพุทธองค์ ท่านใดจะมีความคิดเป็นอย่างไร ย่อมเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล และ เพื่อให้เห็นเวลาของการเกิดเหตุการณ์ จึงจัดแยกเป็นช่วงดังนี้

ตามระยะเวลา (Timeline)

โดยมี พ.ศ.ไทย ที่ปรับแก้แล้วกำกับ ชี้ถึงช่วงเวลาของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น

พ.ศ. 2484 : คณะธรรมทูตไทย ผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ ที่ ประเทศอินเดีย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔

ก่อน พ.ศ. 2548 : เมื่อโลกไปใกล้กึ่งจำนวนที่ตถาคตทำนายไว้ (คือ ก่อนปี ๒๕๐๐ ปี หรือ ก่อน พ.ศ. 2548) มนุษย์และสัตว์ จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศ เสียครึ่งหนึ่ง (ผู้คนครึ่งหนึ่งของโลก จะได้รับภัยพิบัติ เสียครึ่งหนึ่ง)

พ.ศ. 2533 – 2563 : ช่วงในระยะ ๓๐ ปี

สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หินถูกสาป (คนไม่ดี มีจิตใจเช่นยักษ์) ให้หลับ ก็กลับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก  เมื่อใกล้กึ่งศาสนาของตถาคต ก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และ

มนุษย์นอกศาสนา ก็จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือดนอง แผ่นดินและแผ่นน้ำ แม้ในอากาศก็มี อำนาจภัยจากฟ้าทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับ เหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินแผ่นน้ำจะเดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกัน ตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา
(อธิบาย : ผู้มีพระภาค ตรัสเกี่ยวกับ ก่อนกึ่งพุทธกาล หรือ ปี 2500 หรือ ก่อน พ.ศ. 2548 ว่า ก่อนกึ่งพุทธกาลนั้น ผู้คนนอกศาสนาพุทธ ได้สู้รบกัน และที่รู้จักดีคือทั้ง สงครามโลกครั้งที่ 1 และที่ 2 ทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้การต่อสู้ทางอากาศ มีลูกระเบิดจากเครื่องบินทำให้เกิดเป็นเพลิงเผาพลานไปทั่ว ทางพื้นน้ำก็มีการสู้รบกันทางเรือ ทั้งสองฝ่ายต่างเสียชีวิตเป็นอันมาก และแล้วก็เลิกรากัน )

พ.ศ. 2533 : เริ่มแต่ ศาสนาตถาคต ล่วงมาได้ ๒๔๘๕ ปี  (พ.ศ. 2533) เป็นต้นไป 

ไฟ จะลุกมาทาง ทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม
( อธิบาย : พระสงฆ์ ครูอาจารย์ทางพุทธศาสนา เสื่อมลง ตามที่ พระผู้มีพระภาค ตรัสไว้แล้ว ศาสนาและลัทธิอื่น ยังเข้ามาเผยแพรในแดนพระพุทธศาสนา เดียรถีย์เพิ่มพูน ) 

สมณชีพราหมณ์ จะอดอยากยากเข็ญ คนบ้านจะเข้าป่า
( อธิบาย : คนในเมืองบุกรุกป่า มีทั้งจับจองที่ดิน และ หาผลประโยชน์จากป่า ) 

สัตว์ป่าจะเข้ากรุง
( สัตว์ป่า ไม่มีที่หากิน เข้ามาหากินตามไร่สวน รบกวนผู้คน ) 

เมืองหลวง จะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟ จะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้า จะทะยานจากน้ำ มหาสมุทร จะชอกช้ำ
(เกิดมลพิษ ต่างๆ) 

สงคราม จะทั่วทิศ
( สงครามในรูปแบบต่างๆ จะเกิดขึ้นมากมาย ) 

ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง
( คอร์รัปชั่น จักเกิดมาก ) 

ปราดเปรื่อง จะสิ้นสูญ
( คนดี ไม่มีปากเสียง )

ราชตระกูลอำมาตย์ ราษฎรทุกคน จะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม โดยปรวนแปรนิยม เชื่อถือถ้อยคำของคนโกง คนกล่าวคำเท็จ คนประจบสอพลอ ย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต
( อธรรม จะได้รับการยกย่องเชื่อถือ ) 

ทางสองแพร่ง ( จากการวิเคราะห์ตามหลักทฤษฎี )

1. พ.ศ. 2555 : เมื่อศาสนาของตถาคต ล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง พ.ศ. 2555) คนเปลี่ยนสภาพ เดินเป็นคลาน
( อธิบายไว้ในพุทธทำนาย ) 

2. พ.ศ. 2556: ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง พ.ศ. 2556) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรม จะถล่มเป็นทะเล
(โลกาวินาศ)
 
3. พ.ศ. 2560: ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา พ.ศ. 2560) เมืองมนุษย์ จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตากรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม

พ.ศ. 2560 : เมื่อศาสนาของตถาคต ล่วงมาได้ ๒๕๑๒ ( ต่อจากปลายปีระกา ปีจอ พ.ศ. 2560) พระจันทร์ จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก

พ.ศ. 2563 : ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด พ.ศ. 2563 ) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี (จาก พ.ศ. 2533 - 2563) พวกอธรรม คือ พวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้น จะหมดสิ้นไป เพราะพวกมิจฉาทิฐิ จะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด
( เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2563 )
 
ส่วนนี้เป็นการกล่าวถึง พระมหาเถรโพธิสัตว์ และ พระธรรมมิกราช ดังมีความดังนี้ 

มหากษัตริย์ธรรมิกราช ผู้เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง จะเกิดภายในความอุปภัมถ์ของ พระมหาเถระโพธิสัตว์ ( การตีความ แสดงว่า พระธรรมมิกราช นั้นอยู่ภายใต้ พระบรมโพธิสมภารของ พระมหาเถรโพธิสัตว์ ) ทั้งสององค์นั้น จะจัดการบำรุงศาสนาของตถาคต ในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล" 

พ.ศ. 2502 : พระมหาเถระโพธิสัตว์ จะเกิดในสมัยของตถาคต ล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี
( พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแสดงถึง ความเป็นพระมหาโพธิสัตว์ และในเวลาปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร.9 ทรงเป็น พระมหาเถรโพธิสัตว์ โดยสมบูรณ์ ) 

พ.ศ. 2515 – 2534 : เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ ( พ.ศ. 2515 - 2534 ) พระมหากษัตริย์ธรรมิกราช จะมาเกิด
(ท่านอินทรา คนไทยในพุทธศาสนา มีถิ่นฐานอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้อธิฐานบุญอันแรงกล้า ในปี พ.ศ. 2534 และ รู้อมตธรรม ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 หลังค้นหามากว่า 40 ปี ได้ด้วยตนเอง จึงนับว่า พระธรรมมิกราช ได้เกิดขึ้นแล้ว )
 
ทั้งสองพระองค์นั้น สถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ
( พระโพธิสัตว์สองพระองค์ จะอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชณิมประเทศ หรือกล่าวได้ว่า เป็นไปในภาคกลางของประเทศเขตชมพูทวีป  หรือทวีปของพระพุทธศาสนา มาทางทางตะวันออก ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เมืองที่ประทับดังกล่าว คือ กรุงเทพมหานครของประเทศไทย ) 

พ.ศ. 2561 – 2562 : ระหว่าง ปีจอ ปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ (พ.ศ. 2561 – 2562) ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้น จะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้เที่ยงแท้ สมณชีพราหมณ์ จะเสด็จมา ๘๔,๐๐๐ รูป
ดูกรอานนท์ ตถาคต สงสารสัตว์ เวลานั้น พลโลกยังเหลือน้อยเต็มที
( ยกของเดิมมาคือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2556 - 2563 = 30 ปี )

พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้น จะหมดสิ้นไป เพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก
( นี่คือคำตอบ "เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที" ) 

คำทำนายของตถาคตนี้ ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา

"พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติ ปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น