วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555

คำเตือนจาก หลวงปู่สรวง และ หลวงปู่เพ็ง พุทธธัมโม

พ.ศ. ๒๕๕๕  ผืนน้ำ กลืนกิน ผืนดิน

หลวงปู่สรวง (เทวดาเล่นดิน) พูดถึง ภัยพิบัติ ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่นานนี้



เรื่องเล่าเกี่ยวกับภัยพิบัตินี้ เป็นคำบอกเล่าจาก พระครูจันทธรรมานุโยค (ลมัย จันทโร) เจ้าอาวาสวัดโคกตาเขียว อ.สังขละ จ.สุรินทร์ ซึ่งท่านได้เมตตาเล่าให้ทาง นิตยสารลานโพธิ์ แต่ขอยกเฉพาะเรื่องที่ท่านเคยได้ยิน "หลวงปู่สรวง" พูดถึงเรื่อง ภัยพิบัติ มาดังนี้

ประมาณปี 2541 หลวงปู่สรวง ท่านแวะมาที่วัดของ หลวงพ่อลมัย ในช่วงเข้าพรรษา และก่อนท่านจะจากไป ท่านพูดเป็นภาษาเขมรกับหลวงพ่อลมัย ว่า

" พ.ศ. 2550 ถึง 2555 หางนาค กวาดน้ำให้โลกมาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว กำลังจะกวาดน้ำขึ้นมาล้างโลก  จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ คนไม่ดีไม่มีศีลธรรม จะล้มตายมาก ส่วนคนดีมีศีลธรรม จะอยู่รอดปลอดภัยได้ "

" ต่อไปนี้ พ.ศ. 2555 คนเก่งอยู่ในเมืองไทย อยู่ที่ไหนก็ตามแต่ มุมไหนก็แล้วแต่ พ่อ-แม่-ญาติพี่น้อง ไม่ต้องสู้ จะตายหมด น้ำทะเลตีข้างล่างได้ครึ่งโลกแล้ว ไม่ใช่ครึ่งประเทศนะ ครึ่งโลกแล้ว มาบอกให้หยุดนะ ไม่ต้องอยากชนะกัน ให้ออกไป อย่ามีเวร อย่ามีกรรม "

ครั้งที่สอง บอกอีก เป็นภาษาเขมรว่า " ให้ออกก่อน พวกที่ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ออกไปก่อน นางนาคเป่าน้ำ น้ำทะเลเต็มไปหมด ให้มันไปแต่พวกนี้ ประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ กลับเข้ามาก็ตีท่วมภูเขา มีทั้งดินมีทั้งโคลน "

" พวกทำไม่ดีตายหมด " แกว่า  


"...เทวดาตัดสินเอง เจ้ากรรมนายเวรตัดสินเอง หลวงพ่อไม่กลัว (หลวงปู่สรวง) แล้วก็ไม่หนีด้วย หลวงพ่อนี่ ในตัวสังขละ ท่านสร้างมาหลายวัดเหมือนกัน ไปอยู่ที่นั่น เขาเอาระเบิดเข้าไป สามปีมอบตัวกันหมด ที่ถนนดินแดงหลวงพ่อก็ไป "

ถาม - " ที่หลวงปู่สรวงพูด หมายความว่ายังไง? "

 
ตอบ - " แปลว่า ไม่ต้องกลัว 2555 นางนาคเป่าน้ำ ท่วมทั้งน้ำทั้งดิน ตายวอดวาย คนที่ไม่ดีตายหมด  คนดีไม่ตาย " คนดีมันเป็น ไม่ตายจะรอด "

" ท่านบอก ให้คอยดู แต่มาเป่า นี่มันปี 2547-2550 ไม่ใช่สึนามินะ นางนาคสิเป่า ปี 55 แถวเราน้ำไม่มี เขาว่านางนาคเอาขึ้นข้างบน สามวันสามคืนก็เป็นลูกเห็บ ลูกที่หนึ่ง ลูกที่สอง ถูกใครตายระเนระนาด  อย่าให้ถึงขนาดนั้น "

" คนดีไม่ตาย "  แกว่างั้นนะ  


" ถ้าคนมีศีลห้าไม่ถูก ก็เราไม่ได้กบฏพระเจ้าอยู่หัว คนที่กบฏ คนที่อยากชนะ ผืนแผ่นดินนี้ ตายแน่ จะยึดแผ่นดินเป็นหลักแค่นั้นแหละ ปีนี้ นาคไม่ขึ้นที่หนองคาย นาคไม่ขึ้น "

หลวงปู่สรวง ท่านละสังขาร เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2542 (ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง) สรีระสังขารของท่านตั้งอยู่ที่ศาลาออยเตียนสรูล วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ



ประวัติสังเขปหลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูล

ออยเตียนสรูล เป็นภาษาเขมร แปลว่า ให้ทานความสุข ซึ่งความหมายของคำนี้ คือ หลวงปู่สรวง ท่านเป็นผู้ให้ ให้แก่ลูกหลาน ลูกศิษย์ ทุกคนที่ผ่านมาในชีวิตท่าน ท่านให้ได้ทุกอย่าง

ทรัพย์สินเงินทอง ที่มีผู้ถวายท่าน ท่านไม่เคยเก็บเป็นสมบัติส่วนตัว ท่านจะให้แก่คนที่ท่านเห็นว่าเขาควรจะได้ โดยที่ไม่มีกำหนดแน่นอนว่าจะเป็นใคร  และที่สำคัญ ท่านให้ความสุขกับผู้มีความทุกข์ แล้วมาหาท่าน หรือแม้แต่ผู้ที่แค่นึกถึงชื่อท่าน ท่านก็เผื่อแผ่พลังเมตตานั้นมาช่วยให้เขาคนนั้นคลายทุกข์ได้ ถ้าไม่เนื่องด้วยความทุกข์นั้น เกิดจากกฎแห่งกรรมแล้ว ท่านก็จะช่วยเสมอ นี่แหละคือที่มาของฉายาท่าน




หลวงปู่เพ็ง พุทธธัมโม เป็นพระลูกชายของ หลวงปู่บัว สิริปุณโณ ท่านก็เคยพูดไว้ เมื่อตอนที่ อดีตนายกรัฐมนตรีมหาเศรษฐีนายทุน กำลังหาเสียงเลือกตั้ง ตอนนั้นท่านมาพักที่บ้าน ท่านเรียกเข้ามาดูทีวี แล้วชี้ไปที่นายทุนคนนั้น ท่านบอกว่า

" มึงจำคำกูไว้นะ ไอ้คนนี้ เมื่อไหร่ที่ไอ้คนนี้ ขึ้นมาครองเมือง เมื่อนั้นคนจะตายเป็นเบือ ยังกับใบไม้ร่วง และไม่ใช่เฉพาะเมืองไทย จะเป็นไปทั่วโลก เพราะว่า ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมันมาเจอกันพอดี๊พอดี "

ทีนี้หลวงปู่ท่านก็พูดอีกว่า " ไอ้คนนี้ มันบ้าอำนาจ มันจะพยายามหาคนมาแทน พระสังฆราช จ้างก็ไม่มีทาง มันช่างไม่รู้เอาเสียเลยว่า พระสังฆราช กว่าจะมาเป็นได้นั้น มาจากไหน หวังจะล้ม พระเจ้าแผ่นดิน เมินเสียเถอะ กว่าจะมาได้เป็น พระเจ้าแผ่นดิน เขาคัดเลือกมาเพื่อคู่กันกับพระสังฆราชแล้ว "

ต่อจากนั้น ท่านก็พูดอีกว่า " น้ำจะท่วมเมืองทั่วโลก เพราะเขาเริ่มคัดคน มันเป็นทีของพวกนาคแล้ว  ทีใครทีมัน เมื่อก่อนหากมีเรื่อง ใครตาย ใครเป็น ใครเจ็บ จะมีลมพัดมา เรียกว่า ลมส่า (ภาษาอีสาน เรียกว่า ส่า ภาษาไทย หมายถึง ลมกระพือข่าว) คือ เทวดาเขาส่งข่าว และ ถ้าดีเทวดาก็จะดูแลรักษา แต่ไม่ดีก็ไม่รักษา

" แต่คนปัจจุบันนี้ หาดียากมาก และไม่ค่อยสนเทวดา มันว่ามันเก่งกว่าเทวดา เทวดาเลยไม่สนคนเหมือนกัน เรื่องของมึง เรื่องของกู ทีนี้คนก็เป็นเหมือน "คน" จริง ๆ คนกันอยู่นั่นแหละ คนเท่าไหร่ ก็ไม่ทั่ว  มีแต่เรื่องราวให้ตีแตกแยกแยะกัน พวกมึงเร่งทำบุญภาวนาเข้า พวกมึงจึงจะรอด"

" ต้องทำยังไงบ้าง หลวงปู่ "


" มันจะยากอะไร ก็ให้รักษาศีล ข้อไหนที่มันขาด ก็เอาใหม่ เริ่มต้นเสียแต่เดี๋ยวนี้ ข้อไหนพร่องหย่อนยานไป ก็ให้ดึงให้มันตึงเข้าไว้ ในที่สุด มันก็จะเข้าใจ และรักษาได้สบายๆ แล้วก็ทำบุญไป อย่าไปขัดบุญใคร บุญเราก็เร่งทำของเราไป ภาวนาไปด้วย "

" ภาวนาอย่างไรบ้างปู่ อยากได้แบบลัดๆ "


" คนสมัยนี้ ความดีมันไม่ค่อยอยากทำ แต่พออยากได้ มันก็อยากได้ลัดๆ เลย "


" ก็มันไม่มีเวลาแล้ว ขอได้ไหมปู่ "


" มึงพอไหว เริ่มเข้าเดี๋ยวนี้ ชำระสิ่งชั่วจากใจเดี๋ยวนี้เลยนะ รู้ไหมว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่ เขาคัดคน เขาบอกว่า โลกจะแตกนั้น มันไม่ใช่แตกดังโป๊ะเหมือนลูกโป่งนะ มันค่อยๆ แตกทีละน้อยๆ คือเลือกคนนั่นแหละ "

" คนที่ทำบุญ จะรอดไหมปู่ "


" รอด คนมีศีลมีธรรมเท่านั้น จึงจะรอด พยายามกันเข้า มันจะแย่ไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ คนนั้นขึ้นครองเมือง การสู้รบตบมือมากมาย และมันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ให้ดูไว้นะ ข้าวจะยากหมากจะแพง ... จนถึงปี  2555 วิกฤติสุด "

อีกครั้งหนึ่ง เคยไปกราบ หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม ท่านบอกกับผู้เขียนว่า น้ำจะท่วมใหญ่ ให้รีบทำบุญ

" เมื่อน้ำท่วม จะมีกองถั่วอยู่ 4 กอง
กองที่ 1 จะไหลไปกับน้ำ อย่างรวดเร็ว หายไปเลย
กองที่ 2 จะไหลไปกับน้ำ บางเมล็ด ก็จะสามารถเกาะเกี่ยวอยู่ได้รอดจากน้ำ แต่ก็ร่อแร่เต็มที
กองที่ 3 จะกระทบเพียงเล็กน้อย เพราะ สงสารกองที่ 2 เลยต้องอาสา
กองที่ 4 ไม่กระทบกระเทือนใด ๆ เลย "

" หลวงปู่ กำลังหมายถึงว่า กองถั่วนั้นคือคน ใช่ไหม "


" ใช่
กองที่ 1 ไป ทั้งคน ทั้งบ้าน ทั้งรถ ทุกอย่าง จมหายไปเลย 

กองที่ 2 ไปบ้าง ก็รอดบ้าง
กองที่ 3 คือ คนที่ปฏิบัติธรรม มีศีลธรรม กระทบเพียงเพื่อส่งสาร ขอความช่วยเหลือเขา ส่งข้าวส่งน้ำ เท่านั้น
กองที่ 4 ก็คือ พระอริยเจ้า ไม่กระทบเลย แม้แต่ใจ ก็ไม่กระทบ "
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น