วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

วันฟ้าดับ คำทำนายมหาภัยพิบัติของโลก

วันฟ้าดับ คำทำนายมหาภัยพิบัติของโลก

 

บันทึกของ พระคุณลุงคนเชียงใหม่ ถึงหลาน ๆ เรื่องภัยพิบัติ

เรียนสมาชิกทุกท่านครับ หลังจากไตร่ตรองอยู่หลายวัน ผมตัดสินใจนำบันทึกทั้งหมดของ พระคุณลุง นำออกมาเสนอ ก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติมากเกินไป กว่าที่จะคาดเดาได้ของมนุษย์ชาติ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

โดยที่ผมมีส่วนได้เห็นคำบันทึก อันเนื่องมากจากญานของ พระคุณลุง โดยที่ผมไม่ได้นำมาเสนอให้มีการเตรียมการกัน จะเป็นบาปติดในใจผม ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบในบันทึก ที่เขียนไว้ แม้นว่าตัวผมเองจะได้วางอุเบกขา แต่ว่าถ้าไม่ได้เผยแพร่ออกไป สิ่งนี้ผมถือว่าผมขาดเมตตา จะเชื่อหรือไม่ เป็นเรื่องของบุญกรรมของท่าน ในส่วนตัวผมเอง ถือว่าได้เผยแพร่สิ่งที่ติดค้างในใจผมแล้ว

ผมขอแบ่งบันทึกออกเป็น 4 ตอนนะครับ
 
1. เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน วันฟ้าดับ
2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลัง วันฟ้าดับ 3 วัน
3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลังจาก วันฟ้าดับ
4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง

1. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ

วิกรม หลานลุง หลังจากลุงได้แจ่มชัดในญานทัศนะ ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทำให้จิตใจของลุงเองเศร้าหมอง จนไม่อาจข่มจิตให้เป็นอุเบกขา ว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง การเข้าไปก้าวล่วงกรรมของผู้อื่นนั้น ผู้ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงนั้น จะต้องเป็นผู้แบกรับกรรมนั้นๆ ไว้

หลังจากบันทึกนี้ ลุงตัดสินใจที่จะออกบวช เรื่องราวที่มีการเตรียมการกันนั้น ฝากให้หลานดูแลประสานกับ คุณลุงประสิทธิ์และกลุ่มบ้านพุทธบุตร เพื่อช่วยเหลือกันตามกำลังบุญต่อไป

เรื่องราวที่ลุงบันทึกทิ้งไว้ให้หลานนี้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้หลานและ คณะเกิดความประมาทในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านการเตรียมการภายนอกและการเตรียมการภายใน เน้นย้ำเรื่องการฝึกตายก่อนตาย เพื่อให้จิตคุ้นเคยกับอาสัญกรรมในทางสว่าง ให้กับน้อง ๆ และหลาน ๆ ทุกคนด้วย

เพราะกุญแจดอกแรก ที่จะเปิดเข้าไปในโลกแห่งวิญญานนั้น กรรมที่แรงสุดคืออาสัญกรรม เพราะถ้าจิตผูกยึดกับสิ่งใดในขณะที่ขาดห้วงลมหายใจสุดท้ายนั้น ถ้าหากมีเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อาจจะถลำลงสู่อบายภูมิ ถ้าจิตเป็นอกุศลหมั่นทำทานในสิ่งที่ยากๆ เพื่อไม่ให้ตนติดยึดกับคน สัตว์ สิ่งของ ใดๆ อันจะเป็นแรงเหนี่ยวรั้งเราไปสู่การเกิดที่ไม่เป็นกุศล หม่นเจริญมรณะสติ

เรื่องราวที่ลุงได้บันทึกไว้ให้หลานนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดจากญานทัศนะของลุง เพื่อให้หลานจะได้เตรียมตัวเตรียมใจ วันเวลาอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างตามเหตุและปัจจัย แต่เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น สิ่งเตือนซึ่งวันเกิดภัยพิบัตินั้น ไม่เปลี่ยนแปลง

เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่า วันฟ้าดับ ก็แล้วกัน เพราะในยามนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นทุกด้านมืดสนิท แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก ลุงบันทึกหลังจากอธิฐานไปยังวันก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3 วันเจ็ดวัน

ก่อนหน้านั้น ลุงเห็นคนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลองจุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับย้อนหลังในวันสิ้นปี (ลุงจึงคาดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นหลังฉลองสิ้นปีใหม่)

ลุงเห็น ดาวเหนือ เปลี่ยนไปในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก แต่มีความแตกต่างและเห็นได้เจน ทั้งขนาดและความสว่าง (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญานเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน)

ใน วันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน แล้วในวันนั้น ไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้เงียบจนไม่ฟลิกใบ ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบหมอบ

ลุงเห็นฟ้าสว่างโร่อย่างไม่เคนเห็นมาก่อน (ทำให้ลุงนึกถึงเรื่องราวที่คนเล่าถึงแสงสว่างจากระเบิดปรมาณู) ในยามที่เกิดแสงสว่าง ลุงเตือนหลานและทุกคน อย่าพยายามที่จะมองหาต้นทางของแสง เพราะหลังจากนั้น ลุงเห็นภาพคนที่ตามืดบอด เนื่องจากแสงจักรวาลที่ฟาดลงมาแทงทำลายตาของเขา

แต่หลังจากเกิดแสงนี้แล้ว หลานยังมีเวลาเตรียมตัว ในช่วงนี้เองสัตว์ต่าง ๆ จะตื่นกลัววิ่งหนีแบบไม่มีทิศทาง บ้านเราถ้ามีสัตว์ใดๆ ขอให้หลานอย่าได้กักขังเขา เพราะจะเป็นอันตราย แม้แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุด
แต่ก็มีบางตัวที่จะรอดนั้นจะหมอบตัวสั่นใกล้ ๆ กับมนุษย์

ในยามนี้ ขอให้หลานได้เข้าไปยังสถานที่ที่มีการเตรียมการ และปิดให้มิดชิด อาหาร น้ำ ยา และ ชุดยังชีพ ให้ทุกคนแยกติดตัวไว้ อย่าเอารวมกันเพื่อจะแบ่งกัน เพราะอาจจะลำบากมาก ในการติดต่อกันแม้แต่อยู่ใกล้ ๆ กัน

ส่วนการย้ายเข้าที่ปลอดภัยและที่มีมีการเตรียมการอพยพ ขอให้หลานๆได้เตรียมตัวกันเต็มที่ หลังจากที่เห็น ดาวเหนือ เปลี่ยนไป หลังจากที่มี แสงจักรวาล เข้ามาแล้ว หลังอีกไม่นานนัก ลุงเห็นภาพคนกำลังทานข้าวกันอยู่ จะเกิดเหตุการณ์โลกเรา เหมือนกับชนกับอะไรซักอย่าง

คนที่อยู่บนผืนดิน เหมือนคนที่อยู่บนรถขนาดใหญ่ที่มีการชน ภาพคนคนล้มไถลไปกับพื้น ตึกพังทลายราบลงมาทันที ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จะมีเสียงดังเหมือนวัวยักษ์ครางอือ ๆๆๆๆๆ ขอให้หลานและทุกคน อยู่ในห้องแข็งแรงของเรา หรือ คนที่อยู่นอกพื้นที่ ให้เข้าไปยังที่มีหลังคาแข็งแรง และ ปิดหูด้วยอุปกรณ์ป้องกันเสียง ที่ลุงได้ให้เตรียมไว้แล้ว

เพราะพอเสียงวัวยักษ์ร้องเงียบลงไม่กี่อึดใจ ลุงเห็นภาพ ผู้คนวิ่งออกจากตึกเพราะกลัวแผ่นดินไหวที่จะตามมา หลังจากนั้น จะมีเสียงดังที่สุด ซึ่งลุงก็บอกไม่ได้ว่า มันดังแค่ใหน แต่หลังจากนั้น ลุงเห็นผู้คน เลือดออกจากรูหู นอนกลิ้งเกลือก ไปตามพื้น ตาเถลือกถลน

คนที่เอามืออุดหูทันนั้น ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ เพราะลุงเห็นคน ที่พยายามสื่อสารกัน แต่เหมือนกับว่า คนในโลกนี้ แก้วหูขาดไปหมดสิ้นแล้ว เสียงตะโกนโหวกเหวก แต่ต่างคนต่างไม่รู้เรื่อง ลุงจึงขอย้ำเตือนหลานตรงนี้ เรื่องการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหูให้ดีที่สุด อาจจะทำให้หนักเป็นเบาได้

หลังจากนั้น ลุงเห็นภาพที่ทุกคนกลับมาตื่นกลัวอีกครั้ง จากแผ่นดินไหวรุนแรงและสั่นต่อเนื่องกันผิดจากครั้งแรก ที่เหมือนจะชนโครมเดียวแล้วหยุด แต่คราวนี้ เป็นเหมือนมีคนจับเอาเราอยู่ในกระด้ง แล้วเคาะขอบมันอย่างแรงอย่างต่อเนื่อง เสียงหวีดร้องตื่นกลัวดังไประงม

แต่ในยามนั้น นิมิตลุงอาจจะมีเพียงลุงในจุดนั้นที่ได้ยินเสียง เพราะภาพคนที่วิ่งไปมามีเลือดไหลออกจากหู ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนา ที่ลูกหลานที่พ่อแม่หอบออกมาจากอาคารบ้านเรือนที่กลัวแผ่นดินไหว
มาเจอเสียงดังก็วิ่งกลับไป ในที่คิดว่าปลอดภัย และ พอแผ่นดินไหว ก็พากันวิ่งกระเซอะกระเซิงออกมาอีก

หลานวิกรม ลุงเห็นภาพที่สร้างความน่าเวทนาสงสารสรรพสัตว์ทั้งหลายว่า ชีวิตมนุษย์มีเพียงแค่นี้เอง ยังไม่จบสิ้นแค่นี้นะ ภาพผู้คนที่วิ่งหลบแผ่นดินไหวออกมา นั่งกอดกัน ร้องไห้ เป็นกลุ่ม ๆ มีควันไฟ ที่เกิดจากไฟไหม้ลอยคละคลุ้งไปหมด หลายคนที่เสียสติ เริ่มต้นร้องไห้ ภาพพ่อแม่พยายามค้นหาลูกหลานที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง ต่างคนต่างฟูมฟายร้องไห้ ไม่มีใครสามารถช่วยใครได้

ในตอนค่ำ ลุงเห็นคนมารวมกัน มีการก่อกองไฟ อากาศหนาว แต่ลมสงบนิ่ง ตอนนี้ ลุงเห็นขอบฟ้าแดงจ้าจนน่ากลัว แล้วสิ่งที่ลุงเรียกว่า วันฟ้าดับ ก็เกิดขึ้น

ลุงเห็นมี แสงสีแดง พุ่งมาจากพระอาทิตย์วาบหนึ่ง จากนั้น แสงทั้งหมดก็จะม้วนเข้าไปในรูปทรงกลม ลูงไม่รู้จะเรียกอะไร น่าจะเป็นพระจันทร์ดำ เพราะเป็นสีดำ ๆ เหมือนจันทรุปราคาที่มาบดบังพระอาทิตย์ แต่เล็กกว่ามาก แต่ตอนนั้น พระจันทร์ ก็ยังเห็นอยู่ แล้วบรรยากาศที่เหมือนเราดับเทียนในห้องมืดที่สุดก็เกิดขึ้น

พรึบเดียว แสงทั้งหมดจะหายไป แม้แต่ ดวงดาวและพระจันทร์ ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ความมืดในขณะนั้น ลุงเห็นคนพยายามยกมือ ของตนเองขึ้นมาดู ก็ยังไม่สามารถเห็นได้ ความตื่นกลัวก็เกิดโกลาหลอีกครั้ง คนจะกอดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วร้องไห้ระงม คนที่อยู่ห่างจากคนอื่น แม้แต่วาเดียวก็ไม่สามารถหากันเจอ จนกว่าจะคลำหากันเจอ ช่างเป็นภาพที่น่าเอน็จอนาจมาก

คนส่วนใหญ่ที่หูจะแตกดับหรือคนที่อุดหูทัน ก็จะมีอาการหูอื่ออึงอยู่ แต่ก็พอยังมองเห็นกัน แต่ในยามมืดสนิทแล้ว เสียงคนพยายามตะโกนหากัน เสียงหวีดร้องโหยหวนด้วยความกลัว แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ยิน ได้แต่สะเปสะปะไขว่คว้าหากัน อย่างนี้เอง ลุงถึงได้ย้ำกับหลานว่า ให้แยกเป้ที่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับแต่ละคน และเมื่อเข้าไปอยู่ในที่ห้องปลอดภัยที่ได้เตรียมสร้างไว้ ขอให้หลานสร้างตามแปลนที่ลุงได้เขียนไว้ให้ ตู้คอนเทนเนอร์ ที่เตรียมทั้ง ตู้อาหาร ตู้ปลอดภัย และ โรงพยาบาลเคลื่อนที่ด้วย

ตอนนี้ดึกมากแล้ว ลุงง่วงแล้วแต่ยังอยากบันทึกให้หลานไว้ให้เสร็จก่อนที่เดินทางไปหาพระอาจารย์ ภาพที่เกิดมา ลุงรู้สึกเศร้าใจกับญานทัศนะที่ลุงได้เคลื่อนไปในยามที่เด่นชัด กับ เจอภาพภัยพิบัติที่หนักหนาสาหัญกว่าที่ลุงเตรียมการไว้ จนเกิดเวทนาในสัตว์โลก และเห็นการคร่ำควรญของคนที่ไม่เคยศึกษาทางธรรม และ ไม่ได้เตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและเตรียมมรณะสติไว้เลย

ในส่วนที่ลุงบันทึกนี้ คนที่มีกรรมและไม่เคยฝึกสมถะกรรมฐานผ่านในขั้นรูปญาน และ อรูปญาน 4 นั้น หลานอย่าไปอธิบายเขาเลย เพราะจิตเขาหยาบกว่าที่จะเข้าใจ ในวันฟ้าดับ ยังมีเรื่องเอน็จอนาจซ้ำเติมมนุษย์ที่ไม่ได้เตรียมการอีก

หลังจากที่มืดมิดแล้ว ลุงยังเห็นภาพคนคลานหนี หรือกอดกันร้องไห้เพราะยังมีอาการแผ่นดินไหวเป็นระยะ ๆ มากบ้างน้อยบ้าง ภาพเพดาน สิ่งของเท่าที่คนไปแอบซุกอยู่ หล่นลงมา มีคนเจ็บคนตายร้องครวญคราง

แต่วิกรม มีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้น ก็คือ คนที่รอดตายขณะนั้น จะตายมากอีก ลุงเห็นภาพ น้ำแข็ง ก้อนเท่าทีวี เท่าบาตร หรือ บางก้อนขนาดเท่าตู้เย็นเล็ก ทะยอยตกลงมาจากฟ้า ส่วนก้อนขนาดกำปั้น ตกกระจายไปทั่ว

คนที่หลบหนี หลังคนที่หักโครมครามออกมาท่ามกลางความมืดนั้น มาอยู่ในที่โล่ง ต้องมาตายกับฝนลูกเห็บยักษ์ ที่มีความเย็นจัดมาก เพราะลุงเห็นภาพ คนแข็งตายอยู่กราดเกลื่อนเต็มไปหมด แต่ภาพที่เกิดหลังจากนี้ ที่หลานคงคิดว่ามนุษย์ชาติจะอยู่อย่างไร เมื่อลุงอธิฐานไปยังหลังจากนี้แล้วกลับเน็จอนาจยิ่งกว่า

ลุงจะได้พยายามทบทวนเรียบเรียงสิ่งที่ลุงเห็นมา บันทึกให้หลานๆได้นำไปเตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด ในสิ่งที่ลุงเห็นมานั้นไม่เคยแจ่มชัดเท่านี้มาก่อน แต่สิ่งที่ลุงได้อธิฐานว่า ถ้าลุงมีบารมีและมีบุญที่เกี่ยวเนื่องกับพระอาจารย์โสณะ ขอโปรดเมตตา ให้ญานทัศนะของลุงชัดเจนแจ่มใส จนได้เห็นภาพเหล่านี้ขึ้นมา

ขอพระบารมีของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์ ทุกพระองค์ ได้โปรดเมตตาสรรพสัตว์และหลานๆด้วย

……………………………………………………………………………………

2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน

วิกรม ที่ลุงฝากบันทึกนี้ให้หลานเพราะ ลุงคาดว่าต้องใช้เวลาสองสามวัน ที่จะบันทึกให้เสร็จหมด เพราะพิมพ์ได้ช้ามากและที่มอบให้หลาน เพราะหลานเป็นญาติเพียงคนเดียวที่สามารถแยกกายจิตรวมทั้งฝึกสมถะกรรมฐานได้ ในระดับที่จะสามารถสื่อสารทางจิตกับลุงได้ แม้ตอนนี้ จะยังไม่สามารถจะไปหน้าหรือย้อนกลับในเรื่องราวของตนเองได้ดี แต่ขอให้หลานตั้งใจฝึกฝน รายชื่อพระอาจารย์ที่หลานควรจะเดินทางไปฝึกฝนต่อไป

บันทึกในส่วนนี้ ลุงขอเล่าในเรื่องหลังจากผ่านคืนฟ้าดับมาแล้ว เพื่อให้หลานๆได้เตรียมตัว บันทึกเมื่อคืนก่อนแม้ลุงจะไม่ได้บันทึกละเอียดได้เท่าที่ลุงเห็นมา แต่ภาพรวมก็คงไม่ขาดไปมากที่ลุงต้องรีบบันทึก เพราะวันที่ 17 นี้ ลุงจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปยัง หลวงน้ำทา ประเทศลาวตอนบน

วิกรม ในส่วนของพื้นที่ ๆ ได้มีการจัดเตรียมไว้นั้น ที่ลุงประสิทธิ์เสนอย้ายให้ใกล้ลงมานั้น และ รับคนในหมู่บ้านให้มากเพิ่มนั้น ลุงขอเล่าเรื่องที่ลุงเห็นมา จะตัดสินใจอย่างไรแล้วแต่หลาน ๆ จะร่วมกันพิจารณา

บันทึกในส่วนก่อน ลุงเล่าถึงเรื่อง มีก้อนน้ำแข็งที่ตกมาจากท้องฟ้า ทำให้อากาศหนาวเย็นและลมแรงมาก ในส่วนของตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาสร้างห้องแข็งแรงนั้น ขอให้ใช้ตู้เหล็กขนาดใหญ่ที่ลุงสั่งมา และให้เร่งเสริมเหล็กกันกระแทก ด้านบนและด้านข้าง ให้เลือกที่เป็นตู้ที่ใช้เป็นห้องเย็น เพราะจะช่วยเรื่องอากาศหนาวเย็น หลังจากมีก้อนน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้าได้ดี ในส่วนของตู้สำหรับบรรจุอาหารนั้นถ้าสามารถรวบรวมเงินได้ ก็ให้เปลี่ยนเป็นตู้แบบตู้ห้องเย็นให้หมด ก็จะปลอดภัยมากขึ้น

เหตุผลที่ไม่ควรย้ายลงมา เพราะว่าภาพที่ลุงเห็นถัดไป ก็คือ หลังจากที่มีการหยุดของโลกกึ๊กหนึ่งนั้น ภาพน้ำข้ามภูเขามาจำนวนมากมาย ลุงเห็นภาพกรุงเทพจมหายไปกับสายน้ำ ภาพเขื่อนภูมิพล และหลาย ๆ เขื่อนลุงไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง บิดร้าว ตัวเขื่อนแม้ไม่แตกสลายแต่ขอบ ๆ เขื่อนที่เป็นภูเขาเป็นดินมีรอยร้าว และ มีน้ำกัดเจาะเข้าไปจนน้ำทะลุภูเขาไปอีกด้าน จนสุดท้ายภูเขาก็แบ่งออกเป็นสองซีก ลุงเห็นภาพน้ำกวาดบ้านไปเหมือนของเล่น

ที่เชียงใหม่บ้านเรา ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวมากไม่น้อยกว่าที่อื่น ๆ แต่เรื่องน้ำนั้น เขื่อนแม่งัดแม่กวง แตกพังทะลาย น้ำที่แตกมาจากเขื่อน จะกวาดบ้านเรือนที่อยู่ในส่วนตอนล่าง ลุงเห็นภาพเจดีย์ขาวที่อยู่หน้าเทศบาลที่ติดแม่น้ำปิง เห็นแต่ตัวยอดนิดเดียว ฝากหลานไปบอกให้เจ้านิดหน่อยกับลูก ๆ และแฟนเขา ย้ายบ้านมารวมกับหลาน แบ่งพื้นที่หลังบ้านในส่วนของลุงยกให้นิดเลยก็ได้ หรือถ้าไม่อยากสร้างใหม่ก็มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของลุงเลย เพราะแถวแม่ริมนี้จะได้รับผลกระทบจากการพังของเขื่อนน้อย ก็เป็นเพียงแต่น้ำเอ่อล้นแผ่ออกมา แต่คาดว่าแผ่มาแต่ไม่ท่วมถึงหน้าวัดบ้านเราหรือว่าขึ้นมาก็คงไม่สูงมาก เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดน้อยกว่า เขื่อนแม่กวง

ภาพที่ลุงเห็นในเมืองเชียงใหม่ ตึกรามบ้านช่องที่พังทลายจากก่อนหน้านั้น ผู้คนออกมาในคืนฟ้าดับนั้น กลับโดนกวาดไปกับสายน้ำ ที่บ้านเราจะรุนแรงและต่อเนื่องกัน เพราะเขื่อนบ้านเราอยู่ใกล้เขื่อนน้ำเดินทางเพียงสองสามชั่วโมงเท่านั้นเอง คนแถวสันทราย ดอยสะเก็ด ช่อแล คงเลี่ยงหนีไม่พ้น มวลน้ำทั้งหมดจะกวาดไปผ่านลำพูน ไปทั้งหมด แต่ด้วยระยะทางของน้ำก็จะเสียหายน้อยกว่าแถว สันทราย เมืองสันกำแพง แถวอำเภอบ้านธิ ลำพูน

ลุงจะเตือนป้าแดงของหลานและญาติของเรา แล้วแต่เขาเคยฝึกจิต และเชื่อเรื่องการเปลี่ยนของโลกได้อย่างไร คงแล้วแต่บุญกรรมของเขา แต่การสูญเสียบ้านเราก็น้อยกว่า พื้นที่เขื่อนใหญ่ๆ ที่มีมวลน้ำจำนวนมาก อย่างเทียบไม่ได้ ลุงเห็นภาพ เจดีย์วัดอรุณ เห็นเพียงยอดฉัตรเท่านั้น หมายถึง กรุงเทพ คงไม่มีที่แห้งให้ยืน

ลุงย้ำตอนนี้ ขอให้เลือกพื้นที่อย่างไร ก็ให้อยู่ตอนเหนือของเขื่อนหรือหลานจะแนะนำใครที่จะย้ายออกมา เพราะเชียงใหม่เองก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยทั้งหมด ในยามที่โลกมืดมิดมองไม่เห็นอะไรนั้น พ้นจากแผ่นดินไหว แล้วสายน้ำก็กวาดลงมาอีก จะมีใครซักกี่คนหนอที่จะรอดผ่านไปได้ถ้าไม่มีการเตรียมการก่อนล่วงหน้า รวมทั้งการเลือกพื้นที่ ๆ ปลอดภัยก่อนเพราะในยามนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว

อดคิดถึงเชียงรายพะเยาไม่ได้ ถ้าน้ำจากเขื่อนที่จีนสร้างไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ แตกลงมา ที่ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็หมายถึง มีการกักน้ำได้มากที่สุด จะทะลักมาตอนนั้นอีกมากเท่าไหร่

หลานอย่าแปลกใจเลย ที่จุดปลอดภัยของเชียงราย อยู่ที่ดอยตุง มีเรื่องที่หลานต้องเตรียมไว้ด้วยนะ ว่าในช่วงของการที่มีความมืดมิดของโลกนั้น ใช่ว่าจะเป็นความมืดแบบไม่มีแสงใด ๆ คงไม่ใช่ แต่จะมีฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ลงมาเสียงผ่าที่ดังกว่าเสียงระเบิด เปรี้ยง ๆ ๆ พอ ๆ กับเสียงระเบิดหิน เป็นเวลาก่อนที่ก้อนน้ำแข็งจะร่วงมาจากฟ้า

เพราะฉะนั้น เวลาที่มืดมิดแล้วเริ่มเห็นแสงขึ้นมา อย่าออกจากห้องเพราะมันจะเป็นแสงฟ้าแลบและจะตามด้วยก้อนน้ำแข็ง ขอให้หลาน ๆ อย่าได้พยายามที่จะเปิดอุปกรณ์ใดที่เป็นแสง เพราะจะเกิดการผ่าเข้ามาที่บริเวณนั้น แต่ว่าในห้องสามารถที่จะใช้เส้นเรืองแสงที่ลุงให้เตรียมไว้ ในกรณีที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บของคน แต่ต้องปิดประตูให้มิดชิดให้อยู่ในห้องแข็งแรงนั้นอีก 3 วัน หรือจนกว่าอาหารในเป้ ที่เตรียมไว้สำหรับทุกคนหมดที่เตรียมไว้ 4 วัน จึงออกมาจากห้องแข็งแรงได้

ในช่วงที่อยู่ในห้องแข็งแรง ขอให้หลาน นำน้อง ๆ และลูก สวดบทสวดมนต์ที่ลุงได้บังคับท่องให้ขึ้นใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยินเพราะตอนนั้น คนส่วนใหญ่จะหูแตกหรือยังอื้ออึงอยู่ แต่จะช่วยป้องกันอมนุษย์ หรือสิ่งที่หลุดออกมาจากโลกที่ต่างมิติออกไปเข้ามา หลานเคี่ยวเข็ญให้ยายจุ๊กจิ๊กกับหนูบ๊วยสวดด้วย อย่างน้อยต้องสวดบทชินบัญชรต้องได้ วิกรม อย่าลืมน้ำผึ้งที่ลุงสั่งไว้ที่ฟาร์มผึ้งสุภาพเอามาเก็บไว้ในห้องด้วย เพราะจะช่วยเด็กๆไม่ต้อง ทานอาหารแห้ง ๆ อย่างไร้รสชาติไปหลายๆวัน

ย้ำเรื่องการออกจากห้องแข็งแรง อย่าออกจนกว่าจะเห็นแสงอาทิตย์จากข้างนอก หลังจากนั้น หลานอย่าได้รอที่จะย้ายขึ้นไปรวมกับลุงประสิทธิ์ แต่ต้องรอสังเกตุให้ฟ้าสว่างชัด ถ้าขอบฟ้ายังเป็นสีเหลืองอมฟ้า อย่าได้รีบเคลื่อนย้าย ระวังอย่าให้ทุกคนหรือเด็ก ๆ โดนฝนเป็นอันขาด เพราะในก้อนน้ำแข็งที่หล่นมาจากฟ้านั้นมีเชื้อโรค ที่ยาในรายการที่ลุงเตรียมไว้ให้หามาไว้ในห้องยาของเราไม่ครอบคลุม ลุงได้ตรวจสอบกับครูบาอาจารย์แล้วตรงกัน ก็คือ วันฟ้าดับ นั้นประมาณ 3 วัน ซึ่งหลานอย่าได้กังวลเกี่ยวกับวันเวลา เพราะ ในสิ่งที่ลุงไปเห็นมา มันมืดจนแยกเวลาไม่ออกอยู่แล้วว่าผ่านไปเทียบกับกี่วันในเวลาโลกปกติ

ในส่วนที่อื่น ๆ หลานอย่ารู้มากกว่านี้เลย เพราะจำทำให้จิตใจเศร้าหมองกับการจากไปของญาติพี่น้องคนที่รู้จักมากมาย ขอให้หลานอย่าได้หยุดตั้งใจฝึกจิตของหลาน ให้มีร่างจิตสามารถสื่อสารได้ และ สามารถแยกร่างจนชำนาญนั้น ก็จะช่วยให้หลานเป็นที่พึ่งของคนอื่น ๆ ได้

วันนี้คงได้แค่นี้ สายตาลุงชักจะไม่ใหวแล้ว ในส่วนของบัญชีเงินฝากของลุงที่มีในธนาคาร กรุงเทพ กรุงไทย และ กสิกรไทย ลุงได้เซ็นใบถอนทิ้งไว้แล้ว หลานเบิกและย้ายมารวมกันในบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ลุงให้หลานใช้ในการซื้อของจัดเตรียมสร้างตู้คอนเทนเนอร์ให้หมด จะได้สะดวกในการทำงาน เพราะถ้าหลังจากนี้ลุงบวช เงินก้อนนี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับลุงแล้ว

……………………………………………………………………………………

3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ

วันนี้ วันที่ 15 แล้ว ลุงมีเวลาอีกสองวันที่จะบันทึก ก่อนที่จะเดินทางไปตามกำหนดที่ได้นัดหมายกับพระอาจารย์ไว้ ลุงจะพยายามบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์กับหลานและคณะ ที่เตรียมการกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และ ความสามารถและสายตาลุงสามารถทนได้กับจอคอมพิวเตอร์นี้

วิกรม ที่ลุงต้องรีบให้หลานอพยพ หลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วนั้น เพราะหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 10 วัน ศพคนตายที่มีจำนวนมากได้เริ่มเน่าเหม็น แม้ส่วนใหญ่สายน้ำได้จะได้พัดพาไปด้วยแล้ว แต่มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากหนาวตายจากอุณภูมิที่ก้อนน้ำแข็งได้ตกมาจากฟ้าและไม่ได้เตรียมการเอาไว้ อย่าห่วงของที่เหลือ เพราะในหมู่บ้านที่มีการเตรียมการไว้แล้วนั้น มีอาหารเพียงพอสำหรับสมาชิกที่เคลื่อนขึ้นไป ทานอย่างประหยัดสามารถอยู่ได้นานกว่าสองปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แกนโลกก็คงสมดุลย์ และคนอื่นๆก็คงสามารถปรับตัวได้

ในระหว่างเดินทางนั้น ให้สวมชุดที่ใช้สำหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก ที่ลุงได้ซื้อเตรียมไว้ และเมื่อในระหว่างทางเจอฝน ให้ใช้ผ้ายางปันโจ กางอีกครั้งอย่าให้เด็กๆลุยฝน ในช่วงหลังจากนี้ วิกรมพาน้อง ๆ หลาน ๆ ไปออกกำลังโดยการเดินทุกวัน เพื่อในยามที่ต้องเดินเท้าจะได้ไม่ลำบาก ลุงทดลองเดินสบายๆโดยไม่หยุดเลย ออกจากบ้านแม่ริมตอนเช้า ไปถึงหมู่บ้านเรายังไม่ค่ำนัก ถ้าจำเป็นก็แบกเจ้าตัวเล็ก ๆ แล้วใช้ตัวลาก บรรทุกของเป้ แบบล้อสูง ก็คงไม่ทุลักทุเลนัก แต่แน่นอนทางเสียหายหมด แต่เส้นทางที่เดินไปหลานเดินทางไปบ่อย ๆ ถึงจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็คงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก ในระหว่างทาง ถ้ามีการขออาหารหรือสิ่งของ ก็ให้ไปอย่าขัดขืน แต่ต้องรีบเดินทางให้ถึงก่อนค่ำ

เพราะในยามค่ำคืนนั้น มีอมนุษย์ที่หลงหลุดมาจากต่างมิติ ที่คุ้นเคยกับความมืด จะมารบกวนเด็ก ๆ ได้ ลุงเล่าเรื่องที่ลุงเห็นผ่านญานให้หลานเตรียมตัวในช่วงนี้ จะได้ประมาณสถานการณ์ได้

ลุงเห็นผู้คนในเมืองที่เสียสติ เที่ยวไปคุ้ยเขี่ยหาอาหาร มีการปล้นฆ่ากัน ซากศพก็มีกองระเกะระกะ มีทหารถือปืนเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งไม่มีสภาพทหาร ออกมาปล้นโรงพยาบาลที่ลุงเคยทำงาน ตึกใหญ่ล้มพังเกลื่อนลงมา ถนนหนทางที่เราเคยไป ถนนคนเดินกันเทพไม่เหลือสภาพให้จำได้ ลุงกำหนดจิตไปที่กรุงเทพ เป็นภาพที่เอน็จอนาถใจมากกว่า น้ำยังไม่ลดลงมากเท่าไร แต่สิ่งที่ลอยเกลื่อน คือ ซากศพคนตาย มีฝูงจรเข้ ที่ภูเขาทอง ลุงเห็นภาพคนที่แก่งแย่งกัน ค้นหา ปล้นอาหาร ที่เป็นซากห้างใหญ่

ลุงเห็นภาพ ซากเขื่อนที่จังหวัดตากแตก กวาดน้ำไปตามเส้นทาง แทบไม่เหลือสภาพ ว่านี้เคยเป็นเมืองที่เคยมีผู้คนอยู่มากมาย ลุงเห็นภาพผู้คนที่รอดมา แต่คงอดอาหาร บางคนใส่สูทอยู่เลย แต่รวมตัวกันไปปล้น แย่งอาหารของคนที่รอดตายคนอื่น ๆ มีการฆ่ากัน ภาพคนเสียสติเดินไปเดินมาร้องไห้ หัวเราะ ตีอกชกตัวกันเต็มไปหมด

ลุงเห็นภาพพระ 2 รูป องค์หนึ่งหน้าตามีเมตตา ขาว ๆ อายุประมาณ 40-50 ปี อีกองค์ อ้วน ๆ คล้ำ ๆ นิดหนึ่ง อายุกะไม่ถูก พร้อมกับลูกศิษย์นับร้อย ๆ คน เดินทางลงจากเขาลูกเตี้ย ๆ มีวัดอยู่ข้างบน ลุงไม่แน่ใจว่าที่ใหนนะ ช่วยกันฝังศพและสวดศพตามมีตามเกิด

แต่ที่น่าสนใจ คือ เขาเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่รอดชีวิตมาได้อย่างไร มีการเตรียมการกันอย่างไร โดยที่ไม่แสดงอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย สิ่งที่ลุงพบในร่างจิตนั้น ขนาดชาวบ้านก็ยังรู้ว่าลุงผ่านไป หลายคนยิ้มให้ แสดงว่า มีระดับจิตที่สูงมาก คงเป็นจังหวัดที่ลุงเคยทำงาน ที่มีภูเขาเตี้ย ๆ และ มีวัดบนภูเขา ก็น่าจะแถวนครสวรรค์หรือลพบุรี อะไรแถวนั้น เพราะญาณทัศนะของลุงนั้นจะกำหนดจิตไปยังพื้นที่ ๆ กายเนื้อเคยผ่านมาแล้ว ภาพจะชัดเจนที่สุด ลุงเสนอให้หลานเดินทางไปกราบพระอาจารย์ทั้งสององค์ และหาหมู่บ้านที่มีการฝึกจิตระดับสัมผัสกับญานทัศนะของคนอื่นที่ผ่านมาได้

หวังว่าหลานจะชวนน้องกิ๊บที่ทำงานกรุงเทพ ให้ลาออกกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ได้ ที่เหลือก็คงเป็นภาพคล้ายๆ กันถึงความสูญเสีย ขอหลานได้เตรียมใจในส่วนของการสูญเสียคนที่หลานรักด้วย ลุงไม่อาจบอกได้ว่าเป็นใคร แต่หลานต้องเตรียมพร้อมกับ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป ของสังขารทุกคนที่เกิดมาร่วมกัน

ผู้โพสต์บันทึก พระคุณลุง ที่บันทึกไว้ให้หลาน ๆ ก่อนออกบวช
วิกรม หลานพระคุณลุง

……………………………………………………………………………………

4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง

บันทึกหน้าสุดท้ายที่จะเขียนถึงหลาน ก่อนที่พรุ่งนี้ลุงจะออกเดินทางไปเพื่อติดตามพระอาจารย์โสณะ ซึ่งถ้าได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์ ลุงคงบวชตามที่ตัดสินใจไว้ล่วงหน้าก่อนนี้แล้ว ลุงคงไม่มีภาระในทางโลกมากอยู่แล้ว เพราะคุณป้าของหลานได้ลาโลกนี้ไปนานหลาย ปีแล้ว วันเวลาที่ผ่านมา ลุงก็พอมีความสุขทางโลกกับลูก ๆ หลาน ๆ และ ช่วยเหลือคนไข้ไปตามประสาจนสามารถที่จะมีเวลาในการศึกษาในทางธรรมจนชีวิตก้าวมาถึงจุดนี้

บันทึกนี้ ลุงบันทึกไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ระลึกถึงลุง เพราะหลังจากลุงบวชแล้ว ต้องติดตามพระอาจารย์โสณะ เท่าที่ได้กราบพระอาจารย์พระอาจารย์จะธุดงค์เป็นส่วนใหญ่ และลุงเชื่อมั่นว่า พระอาจารย์จะมีอายุขัยมาหลายร้อยปีมาแล้ว เพราะลุงได้กราบถามพระอาจารย์ว่า พระอาจารย์ทำไมพูดได้หลายภาษา พระอาจารย์ยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า เมื่อจิตฝึกมาดีแล้ว และ มีเวลาศึกษาอะไรนาน ๆ ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจหลาย ๆ ภาษา และ ถ้าไม่อยากศึกษาก็สามารถสื่อสารกันด้วยจิต

ลุงได้ถามว่า พระอาจารย์ชื่อพ้องกับพระในคณะพระที่เดินทางมาจากอินเดีย ในสมัยพระเจ้าอโศกเพื่อมายังสุวรรณภูมิ พระอาจารย์ยิ้มๆ บอกว่าทำไมคิดว่าพ้องละ ลุงเลยบอกว่า เพราะพระที่มาจากอินเดียรูปนั้น ถ้ายังอยู่อายุคงเป็นพันกว่าปีแล้ว พระอาจารย์ไม่ตอบ แต่เบี่ยงไปว่า ในดินแดนจาตุมหาราชิกา หรือรอยต่อนั้น พรรษาหนึ่งกับบ้านเรานานกว่านั้นแล้วนะ และ ที่ลุงมั่นใจ เพราะว่าระดับจิตเจโตของลุงไม่สามารถเทียบเคียงกับจิตของพระอาจารย์ได้ ที่สูงกว่าพระที่มีชื่อเสียงในบ้านเราที่ลุงไปกราบมาแล้วตั้งมากมาย จึงคาดว่าอาจจะได้พบกับหลาน หรือว่าไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ แต่หวังว่าหลานจะฝึกจิตจนร่างจิตสามารถที่จะติดต่อกับลุงได้ในที่สุด

วิกรม สิ่งที่ลุงได้บันทึกเล่านี้ เป็นการบันทึกที่ผ่านญานทัศนะของลุงในระดับจิตที่ลุงมีอยู่ สามารถเดินหน้าถอยหลังชัดเจนในพื้นที่ ๆ กายเนื้อของลุงเคยไปสัมผัสในบริเวณนั้น ๆ แต่ที่ผ่านมาลุงมีโอกาสได้เดินทางไปเกือบทั่วทุกจังหวัด เพราะไปทั้งราชการและป้าของหลานเป็นคนชอบเที่ยว ทำใหการผูกจิตข้ากับจุดที่กายเนื้อผ่านไป มีความชัดเจนในภาพรวมที่พอจะช่วยหลานได้พอสมควร

สุดท้ายที่ลุงจะบอกกับหลาน ก็คือ ต่อไปประเทศไทย หลังวันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลุงไม่แน่ใจว่า ในญานที่ลุงผ่านไปนั้น ลุงเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางดอยสุเทพ หรือ ขึ้นผิดทางที่เราเคยเห็นมา โลกคงเปลี่ยนไปมากทีเดียว

ลุงใช้เวลาหลายคืนในระยะที่ผ่านมาเพื่อกำหนดยังที่ต่าง ๆ หลานจะได้เห็นประเทศไทยเปลี่ยนไป เหนือกับอีสาน ยังพอมีเหลือคนไทยอยู่มาก น่าสงสารคนภาคใต้ที่โชคร้าย ที่น้ำทะเล สูงเท่าตึก 5 ชั้น 7 ชั้น กวาดเข้ามาในแผ่นดิน ตอนที่โลกเหมือนจะชนกับอะไรซักอย่างที่ลุงเล่าให้ฟังแล้ว จนคนที่รอดตายเหลือน้อยอยู่แล้ว ก็จะมาตายกับลูกเห็บยักษ์อีก หลังจากนั้นลุงเห็นคนที่รอดตาย กำลังจะไปหาอะไรทานเพราะความหิว กลับถูกน้ำทะเลมากวาดคนลงไปให้ปลากินเป็นอาหารอีกมากมาย

ภาคใต้ คนจะเหลือน้อยจริง ๆ ในส่วนของเมืองกรุงเทพของเรา ก็คงจะจมลงในน้ำที่เกิดจากเขื่อนพัง มีคนตายมากมาย และ กว่าน้ำจะลดลง จำนวนตายมากจนคนไม่กล้ามาอยู่ เพราะวิญญานที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วนเวียนหาคำตอบให้ตัวเองมากมายไปหมด ใครที่เข้ามาโดยจิตที่อ่อนแอแล้ว จะถูกดวงวิญญาณเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามาหาคำตอบ น่ากลัวจนคนไม่กล้ามา จนกลายเป็นเมืองร้าง

คนที่มีมากที่สุดแต่กลับเดือดร้อนที่สุดกับคนภาคอีสาน เพราะขุดบ่อน้ำตรงไหนก็เจอแต่หิน บ่อที่เคยมีน้ำกลับกินไม่ได้เลย กลายเป็นน้ำที่เค็มกว่าทะเล ลุงเห็นภาพคนเป็นหมื่นเป็นแสน เดินไปอยู่ริมน้ำโขงมากมาย และสุดท้าย คนอีสานข้ามไปอยู่ฝั่งน้ำโขงไปอยู่ประเทศลาว มีพระอาจารย์ที่หูเป็นปานพาชาวบ้านเดินข้ามน้ำไป

ทางเหนือของเรา อาหารการกินถ้าไม่ได้มีการกักเก็บไว้ล่วงหน้าจะเจอกับปัญหา เพราะอากาศจะหนาวมาก ลุงกำหนดจิตไปที่ภูเขา เจอหิมะบนยอดเขา ตอนแรกคิดว่าอธิษฐานผิดที่ไปเมืองนอก แต่กลับไม่ใช่ ลุงเห็นภาพพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่กลางหิมะขาวโพลน กว่าจะปรับตัวกันได้ ก็คงจะลำบากหน้าดู แต่อย่างไรก็ตาม ลุงโซ๊ะที่ปลูกพืชเมืองหนาวมาตลอดชีวิต น่าจะช่วยให้คำแนะนำหลานได้ อีกอย่างโรงเขี่ยเชื้อเห็ดเพาะเห็ด ที่ให้พระดีดูแลอยู่ก็น่าจะช่วยเรื่องอาหารได้ นานพอสมควร ที่หลาน ๆ จะได้ปรับตัวกันได้

หวังว่าสิ่งที่ลุงบันทึกนี้ จะเป็นประโยชน์กับหลานไม่มากก็น้อย ในการเตรียมการ ส่วนอุปกรณ์ที่ลุงได้เตรียมให้พวกเราไว้ทั้งเป้ อุปกรณ์ยังชีพ วิทยุสื่อสาร ชุดป้องกันโรค และอื่น ๆ ขอให้หลานได้ตรวจสอบตามวงรอบที่ลุงได้ทำแผ่นบันทึกให้ตรวสอบและสับเปลี่ยนยา อาการหลอดในเป้ รวมทั้งชุดป้องกันเชื้อ ส่วนอาวุธปืน มีดสนาม ขอให้รักษาให้ดี ปืนนั้นทะเบียนเป็นชื่อลุง ก็คงไม่เป็นไร เอาไว้ป้องกันตัวจากสัตว์ร้าย

ขอหลานได้ตั้งใจฝึกจิตและพาน้อง ๆ หลาน ๆ ฝึกด้วยกับหลาน ส่วนเจ้าตัวเล็ก ๆ ทั้งหลายให้ฝึกสวดมนต์ในบทที่ลุงเตรียมไว้ ให้ ลุงเขียน Username และ Pass ไว้ที่หน้าจอแล้วถ้าไม่ลำบากคิดจะทำบุญก็ให้หลานไปตามข้อมูลและติดตามข่าวจากในเวปพลังจิตก็จะได้ประโยชน์จากการหาของที่จำเป็นและวิธีการในการเตรียมความ พร้อม ขอคุณพระศรีรัตนตรัยได้คุ้มครองหลาน ๆ ด้วย สิ่งใด ๆ ที่ลุงได้ล่วงเกินหลาน ๆ และทุกคน โปรดเมตตาอหสิกรรมลุงด้วยลุงหมอของหลาน ๆ ทุกคน

วิกรมหลาน พระคุณลุงคนเชียงใหม่ โพสต์
ข้อความในบันทึกใด ๆ ที่มาจากบันทึกนี้ก่อให้เกิดอกุศลกรรมกับผู้ไดโปรดเมตตาอโหสิกรรมให้กระผมด้วยครับ
วิกรม

ขอบคุณข้อมูลจากบอร์ดพลังจิต