วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

คำทำนายของ อาจารย์นันทะ

คำทำนาย ของ อาจารย์นันทะ

นันทะ แห่ง วัดพระแม่กาลี
ผู้ปฏิบัติตนอยู่อย่างสมถะ เป็นลูกของ บาบาผู้หยั่งรู้ โดยเฉพาะในด้านของจิตวิญญาณ

วันนี้ นันทะ ได้ออกเดินทางไปยังทั่วแคว้น เพื่อศึกษาความเป็นไปของ โลกและมนุษย์
เขาไว้หนวดเครายาว ลามถึงโหนกแก้ม เหลือให้เห็นเพียงลูกตาสองข้าง
หลายคนที่พบเห็น บ้างมอง นันทะ เหมือนคนบ้าเสียสติ
กินอาหาร เพียงมื้อเดียว มีแก้วน้ำส่วนตัว ทำจากโลหะ

แต่ในความเป็น นักพรต
นันทะ ถูกเรียกขานว่า อาจารย์ จากลูกศิษย์ลูกหา ที่มีอยู่มากมาก
โดยเฉพาะใน อินเดีย ศรีลังกา เนปาล มาเลเซีย แล ะในประเทศไทย
และหนึ่งในนั้น ที่ปวารณาตัวเป็นลูกศิษย์ ก็คือ
อาจารย์แม่ อภิคณา เก่งกสิกิจ แห่ง เทวสถานพระศรีนาคาทุรคาเทวี แห่งนี้นี่เอง

แม่อภิคณา เล่าให้ฟังว่า อาจารย์เป็นคนเรียบเฉย เมื่อครั้งเดินทางมายังเทวสถาน
ดูท่าน เหมือนไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใด
ทานอาหาร เพียงแค่ วันละมื้อ ไม่ทานเนื้อสัตว์
มีเหยือกโลหะส่วนตัว ไว้ดื่มกินน้ำ และ ไม่รับกาแฟ โดยเด็ดขาดเพราะในกาแฟ มีสิ่งกระตุ้น
และยังห้ามให้ อาจารย์แม่ และทุก ๆ คนที่ปฏิบัติ ดื่มกินอีกด้วย

เช่นนั้นแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ อาจารย์นันทะ ผู้ปฏิบัติตนมายาวนาน นับสิบ ๆ ปี
จะมีสิ่งพิเศษ เหนือผู้อื่น โดยเฉพาะ การสัมผัสในเรื่องของ จิตวิญญาณ และ นิมิต

อาจารย์นันทะ ได้เคยกล่าวทำนายไว้มากมายหลายอย่างกับ สิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
โดยเฉพาะ ในเรื่องของ ภัยพิบัติของอนาคต ที่จะมาคร่าชีวิตของผู้คน
แม้แต่ในเรื่องของ สึนามึ ซึ่งตอนนั้น คนไทยแทบยังไม่รู้จัก

อาจารย์นันทะ ได้มองเห็นอนาคต ในอีกหลาย ๆ อย่าง
เมื่อเดินทางไปกับ มะ (อาจารย์อภิคณา) และได้จดบันทึก และกล่าวไว้
ซึ่งบางบทบางตอน ตรงกับคำทำนายของ อานันทะครู องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า

         
อานันทะ ดูก่อนอานนท์
ก่อนกึ่งพุทธกาล 15 ปี จะเกิดการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน
ฝนเหล็ก จะตกจากอากาศ ไฟจะลงมาจากอากาศ
จะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตาย ซึ่งกันและกันเป็นอันมาก

แต่ว่า ดูก่อนอานนท์
ก่อนกึ่งพุทธกาล 15 ปี จะถือว่า เป็นการณ์ร้ายแรง หาได้ไม่
ทั้งนี้ก็เพราะว่า หลังกึ่งพุทธกาล ไปแล้ว
อานันทะ ดูก่อนอานนท์ จะมีความร้ายแรง มากกว่า ก่อนกึ่งพุทธกาลมาก

ยักษ์นอกพุทธศาสนา จะรบราฆ่าฟัน ซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกัน ฝ่ายละมาก ๆ
สมณะ ชี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไป ฝ่ายละครึ่ง จึงจะเลิกรากัน
สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนา จะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก
พระพุทธเจ้า บอกว่า ค.ศ. 2000 โลกจะไม่สลาย พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ตลอดไป 5,000 ปี

บันทึกของ อาจารย์นันทะ ถูกตีพิมพ์โดย อาจารย์แม่อภิคณา เมื่อหลายปีก่อน
และมีผู้คน นำไปพิมพ์จำหน่ายจ่ายแจก กันมากมาย บิดเบือนแบบงู ๆ ปลา ๆ
และนำไปผสมปนเป เหมารวมว่า เป็นคำทำนายของ พราหมณ์อานันทะ ทั้งหมด

ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้เลย
โดยเฉพาะกับ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ในจังหวัดต่าง ๆ แบบละเอียดยิบ
ซึ่งแน่นอนว่าใน พุทธทำนาย คงไม่ได้ที่จะลงลึกยิบย่อย ไปจนถึงขนาดนั้น
และบ้างก็นำคำทำนายไปเผยแพร่ อยู่ในสำนักของตน
โดยไม่ได้ระบุ ที่มาที่ไป หรือ ให้เครดิตแก่ อาจารย์นันทะ เลยแม้แต่เพียงนิดเดียว

ทุกวันนี้ ตัวท่านเอง ก็ได้แต่นั่งยิ้ม เมื่อมีคนนำเรื่องนี้มาบอก
ทว่าท่าน ไม่ได้เป็นกังวล หรือ ได้เดือดร้อนใจ แต่อย่างใด
เพราะสิ่งที่เผยแพร่ออกไป อย่างน้อย ก็เป็นเครื่องเตือนสติ แก่ผู้คน
ส่วนใครจะ เชื่อหรือไม่เชื่อ ก็หาใช่เรื่องของท่านอีก เพราะท่านได้ทำนาย ไปตามนิมิตที่เห็น
และส่วนใคร จะนำคำทำนายนี้ ไปเป็นสมบัติของตน
แต่ตราบใด ที่ยังนำไปเผยแพร่ ก็ไม่ได้ถือเป็นความผิด แต่อย่างใด
เพราะด้วยเหตุสุดท้ายของการกระทำนั้น ผลที่ได้ ก็คือ
ได้เผยแพร่เรื่องราว ต่าง ๆ และ ให้ข้อคิดกับผู้คน ที่กำลังใช้ชีวิตอย่างประมาท นั่นเอ

          
สถานที่แห่งแรก ในประเทศไทย ที่จะได้เผชิญกับ ลาวาร้อน จากไฟใต้โลก
จะเกิดขึ้นจาก ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ของจังหวัดแรก ในภาคอีสาน
ตามรอยต่อของจังหวัด ที่ติดกันเป็นแนวยาว

เริ่มแรก จะมีลักษณะเป็นแนวแยกของแผ่นดินคดเคี้ยว ไปทาง ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ธารโลหะร้อน จะไหลลามแผ่ออกไปเป็นบริเวณกว้าง ข้ามวันข้ามคืน ติดต่อกัน
จากนั้น พายุที่รุนแรง จะนำน้ำ มาดับไฟ ก่อให้เกิดน้ำท่วม
และ โรคร้าย ที่จะระบาดอย่างรุนแรง จนสุดที่จะเยียวยาได้

โดยเฉพาะ อหิวาตกโรค สายพันธุ์ใหม่ ที่มนุษย์เชื่อว่า ได้กำจัดหมดไปจากโลกนี้แล้ว
แต่หารู้ไม่ว่า มันกำลังฟักตัว และ จะมีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าเดิม
ซึ่งสามารถคร่าชีวิต ผู้รับเชื้อได้ ในเวลาเพียงวันเดียว เท่านั้น

ท้องฟ้า มืดมิด ฝนจะเริ่มตกหนัก ทั่วโลก อย่างไม่หยุดยั้ง
น้ำ เอ่อขึ้นเรื่อย ๆ จนเข้าท่วมแผ่นดิน ในหลาย ๆ พื้นที่
พายุไซโคลน จะพัดกระหน่ำ และ จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 160 ก.ม./ชั่วโมง
พัดผ่าน กรุงเทพฯ ผ่าน แม่น้ำเจ้าพระยา

ตึกแห่งหนึ่ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อยู่ใกล้กับสะพาน กลางเก่ากลางใหม่ ในย่านฝั่งธนบุรี
จะพังทลายลงมา จากการโหมกระหน่ำ และ ความบ้าคลั่งของลมพายุ
มีผู้เสียชีวิต ในครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 600 คน

ในเวลาหลังจากนั้น ไม่นานนัก
ตึกสีขาว ที่อยู่ริมแม่น้ำ ฝั่งตรงข้าม จะพังทลาย ตามลงมา
ยอดตึก ที่พังทลาย จะแลเห็น โผล่เหนือน้ำ ให้เห็นเป็นอนุสรณ์ของคราบน้ำตา

หลังคาบ้านเรือน ในบริเวณใกล้เคียง จะปลิวว่อน
เสาไฟฟ้า จะล้มระเนระนาด ด้วยความรุนแรง
จะสร้างความเสียหาย ให้กับบ้านเรือน ในบริเวณใกล้เคียงอย่างเหลือคณานับ

เทือกเขาตะนาวศรี ในจังหวัดราชบุรี จะพังทลายลงมา เนื่องจากแผ่นดินไหวที่รุนแรง
ซึ่งจะเปิดเผยให้เห็นถึง ภูเขาไฟ ที่ซุกซ่อนอยู่
หลังจากนั้นไม่นาน ภูเขาไฟลูกแรก ในประเทศไทย จะระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
เสียงดังกึกก้องกัมปนาท ดังมาถึง กรุงเทพฯ
ธารลาวา จะไหลลงไปยัง ฝั่งพม่า
ไม่นานนัก ระเบิดลูกที่สอง และ ลูกที่สาม ก็ตามมา ลูกที่สี่ จะมีความรุนแรง อย่างถึงที่สุด
ซึ่งจะสร้างความอำมหิต ให้กับ ภาคเหนือ และ ภาคอีสาน ต่อไป

ณ บ้านกุดฉิม อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น
จะเกิด ภูเขาไฟ แห่งที่สอง ระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิต ประมาณ 500 คน

ที่ บ้านโพธิ์ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
จะเกิด แผ่นดินไหว และมี ลาวาร้อนจากภูเขาไฟ ไหลเคลื่อนตัวทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
มีผู้เสียชีวิต ร่วมพันคน

เกิด ภูเขาไฟระเบิด ในจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างกะทันหัน จนยากที่ผู้คนในบริเวณนั้น จะตั้งตัวทัน
และ จะเกิดปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาด มีจำนวน เด็กผู้หญิง เสียชีวิตมากกว่า ผู้ชาย

จังหวัดตรัง เกาะทุกเกาะ จะจมหายไป
เนื่องจาก ลมพายุที่รุนแรง และ ทะเลคลั่งที่กลบกลืนหมู่เกาะ ให้หลับลึก ไปอย่างรวดเร็ว

สมุทรปราการ จะจมหายลงไปในท้องทะเล ครึ่งเมือง อย่างถาวร
เนื่องมาจาก ลมพายุ ที่โหมกระหน่ำ บวกกับ น้ำทะเลหนุนสูง
น้ำจะท่วมอย่างรวดเร็ว และ มีสายน้ำเปลี่ยนทิศ ไหลผ่านเมือง อย่างน่าหวาดกลัว
ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากหายนะครั้งนี้ จะถูกนำส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ในย่านสำโรง
และโรงพยาบาลแห่งนี้ จะเป็นประตูต้นทาง ของกระแสน้ำที่ไหลเปลี่ยนทิศ
แต่ก็เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด ของเมืองสมุทรปราการ

เกาะสมุย จะถูกลบหายไป จากแผนที่โลก
เนื่องจาก แผ่นดินไหว อย่างรุนแรง และ เกิดพายุ รวมทั้ง คลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ
จนกระทั่ง เกาะทั้งเกาะ จมหายลงไปในท้องทะเล อย่างไม่มีวันหวนกลับคืน

เกิดแผ่นดินไหวที่ ตัวเมืองบุรีรัมย์ เสียชีวิตทันที 53 คน
ผู้บาดเจ็บที่เหลือ จะเสียชีวิตอย่างมากมาย ในระหว่างทางไปโรงพยาบาล

เกาะปันหยี จังหวัดพังงา เกิดน้ำท่วมสูง
และ พายุ ที่รุนแรงโหมกระหน่ำ หายสาบสูญอย่างถาวร ผู้คนเสียชีวิตทั้งเกาะ

เขื่อนบางลาง จังหวัดนราธิวาส ถูกคลื่นจากทะเลซัดกระหน่ำ จนกระทั่ง เขื่อนแตก
น้ำไหลทะลัก เข้าท่วมแผ่นดิน รวมทั้ง น้ำทะเลที่ถาโถม เข้าสู่แผ่นดินอย่างบ้าคลั่ง
จนกระทั่งไม่มี นราธิวาส หลงเหลืออยู่ ในแผนที่โลก

บ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด จะถูกคลื่นยักษ์ไซโคลนกระหน่ำ แผ่นดินหายไม่มีเหลือ

ยะลา ถูกทะเลคลั่งโหมกระหน่ำ น้ำทะเลสูง
แผ่นดินหาย เหลือเพียงเกาะเล็ก ๆ เท่านั้น ที่จะมีชื่อเรียกใหม่ว่า เกาะยะลา

จังหวัดสงขลา น้ำท่วมสูง เกาะทุกเกาะ จมหาย
จะเหลือเพียง หาดใหญ่บางส่วน ที่น้ำจะไม่ท่วมถาวร

ชลบุรี ชายฝั่งทะเลบางแสน ถูกคลื่นยักษ์ 4 - 5 เมตร ซัดกระหน่ำอย่างรุนแรง
จนกระทั่ง มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พังพินาศ แต่น้ำทะเล จะไม่ท่วมถาวร

ฉะเชิงเทรา น้ำจะท่วมถึง สองฝั่งบางปะกง จนถึง ฐานหลวงพ่อโสธร

กระบี่ จะถูกพายุพัดกระหน่ำ ผืนดินทางด้านตะวันออก จะหายไป
ชาวประมง ประมาณ 180 คน จะถูกกลืนหายไป ในท้องทะเล

ชุมพร จะเผชิญพายุฝนที่รุนแรง คลื่นจัด น้ำท่วมสูง
ศาลกรมกลวงชุมพร จะเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ ให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์

อุทยานภูริน นางย่อง สิมิลัน จังหวัดพังงา ถูกคลื่นยักษ์ ซัดหาย

ภูเก็ต ถูกพายุถล่ม อย่างบ้าคลั่ง จนกระทั่ง เกาะหายไป จากแผนที่โลก
มีผู้เสียชีวิตทันที ประมาณ 40,000 - 60,000 คน

นครศรีธรรมราช จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ มีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 คน

พังงา น้ำท่วม แผ่นดินจะถูกกลืน จมหายไปในท้องทะเล

ปัตตานี ฝนตกหนัก จนเกิดน้ำท่วม ทั้งจังหวัด
แต่ วัดช้างไห้ ของ หลวงปู่ทวด จะปลอดภัย
รูปปั้นหลวงปู่ทวด จะแสดงปาฏิหาริย์ ลอยน้ำ ขวางกระแสน้ำเชื่ยว
น้ำจะแห้ง วัดช้างไห้ จะกลายเป็นเกาะกลางน้ำ

เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ จะพังทลาย
กระแสน้ำที่เชี่ยวกราด จะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า มีผู้เสียชีวิตทันที ประมาณ 200 คน
เกิด ภูเขาไฟระเบิด อย่างถึกก้องกัมปนาทที่ จังหวัดอุตรดิตถ์

เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี  จะมีปัญหา น้ำไหลอ้อมเขื่อน ท่วมด้านล่าง เสียหายบางส่วน
รวมทั้ง น้ำท่วมสูง แผ่นดินหายถาวร ครึ่งจังหวัด

จังหวัดนครราชสีมา เกิดน้ำท่วมใหญ่ เป็นประวัติการณ์
กระแสน้ำ จะท่วมสูงถึง ฐานของอนุสาวรีย์ย่าโม

ทุกจังหวัด ในประเทศไทย ต่างก็ได้รับความบอบช้ำ ด้วยกันทั้งสิ้นจะมากน้อยต่างกันไป

 
         
บริเวณใดที่มีผู้คนที่มีศีลธรมอาศัยอยู่ อาจได้รับการปกป้องบรรเทาภัยพิบัติ ให้เบาบางลงไปได้บ้าง
ข้อมูลทุกอย่าง ที่กล่าวมานี้ อาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ระดับความรุนแรง จะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน

ดังเช่น ภูเขาไฟ ที่กล่าวว่า จะเกิดในสถานที่หลายแห่งนั้น
อาจเกิดระเบิดกึกก้องกัมปนาท รวมกันในสถานที่แห่งเดียวกัน แต่จะมีความรุนแรง มากกว่าปกติ
กล่าวคือ อาจจะมี ลาวา พุ่งขึ้นฟ้า สูงเป็นพิเศษ ถึง 6 กิโลเมตร เป็นต้น

เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น จะมีอยู่วันหนึ่ง ที่เหตุการณ์รุนแรงที่สุด
คลื่นพลังมหาศาสจากจักรวาล จะกระแทกลงมายังโลก เป็นพลังงานที่เกิดจาก ลมพายุสุริยะ
อันเนื่องมาจาก จุดดับบนดวงอาทิตย์ จุดที่ 11

มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้พบกับเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว
บรรยากาศช่วงแรก ๆ จะรู้สึก หดหู่ เวิ้งว้าง ท้องฟ้า จะวังเวงพิกล
หลังจากนั้นไม่นานนัก
ลมจะแรงขึ้น เสียงฟ้าเสียงลม จะแผดเสียงกึกก้อง ดังที่สุด
ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนี้ มาก่อนในชีวิต

เป็นเสียงของ พญามัจจุราช ที่พิพากษาโลก ในด้านความเป็นมนุษย์
คนชั่วทุกคน จะถูกประหารชีวิต และ ตายอย่างทรมาน
ไม่เว้นแม้แต่ ผู้นำสังคม ผู้นำเศรษฐกิจ ผู้นำลัทธิ ฯลฯ
ส่วนคนดี จะได้รับการยกเว้นเอาไว้ ให้ได้ทำความดี โดยไม่มีอุปสรรคต่อไป

ปลายปี พ.ศ. 2548 นี้ จะเริ่มเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลก
ซึ่งจะส่งผลให้มีคนตาย จำนวนมหาศาล ส่วนผู้ที่รักษาศีล 5 ขึ้นไป จะรอด

และอีก 5 ปีต่อไป
น้ำจะท่วม ภาคใต้ และ จะร้ายแรงมากกว่าสึนามิ หลายเท่า
ผู้คนที่รอดชีวิต จำต้องเดินทางขึ้นเหนือ เพื่อให้พ้นภัย
โดยระหว่างทาง จะพบกับคนนอนตายเกลื่อนกลาด จำนวนมาก

คนที่ไม่เคยเข้าวัด ก็รีบเข้าวัดซะ ตอนนี้ ก็ยังทัน
รีบหา ของดี วัตถุมงคล ติดตัวไว้ แต่ถ้าเป็นคนมีศีลดีอยู่แล้ว ก็ยิ่งดี
และสุดท้าย ให้นั่งสมาธิ
เพราะ ไม่มีสิ่งใดจะช่วยเราได้ นอกจาก สมาธิ และ ผู้ปฏิบัติสมาธิที่ได้อภิญญา
เรียกว่า ให้อยู่ใกล้คนดีเข้าไว้

           
ปี พ.ศ.2549
พระศรีอารย์ ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ อยู่สวรรคชั้นดุสิต ในตอนนี้ จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์
(ท่านลงมาเกิดในคราวนี้ ไม่ใช่ จะมาเป็นพระพุทธเจ้า แต่เพื่อช่วยให้ผู้คนรอดพ้นจากเหตุการณ์ อันเหลือที่มนุษย์จะรับมือได้ไหวครั้งนี้ เพื่อช่วยให้พ้นจาก ภัยสงครามครั้งมหึมา ที่จะทำให้มีคนตายมหาศาล ที่กำลังจะเกิดขึ้น ท่านอาจจะเกิดเป็นมนุษย์แล้วก็ ได้ แต่ยังไม่แสดงตัวเท่านั้น) 

หากท่านไม่แน่ใจว่า ตัวท่านมีความดีพอ ที่จะรอดพ้นจากมหาภัยพิบัติ ครั้งนี้ละก็
ขอให้หา ของดี ติดตัวไว้เป็นอย่างดี หรือถ้าหา ของดี ไม่ได้จริง ๆ
ก็จงทำตัวของท่านให้เป็นคนดี เพื่อความดีจะรักษาตัวของท่านเอง
หากท่านไม่เชื่อ ก็จงอย่าเพิ่งปฏิเสธ
(ยกตัวอย่าง เช่น เชื้อโรค ที่ตาเปล่าของเรามองไม่เห็น แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ว่ามันไม่มี เพราะเรามีเครื่องมือ คือ กล้องจุลทรรศน์ ที่จะส่องเห็นแล้ว)

ส่วนเรื่องอย่างอื่น เช่นที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้า
เครื่องมือที่จะเห็นก็มีแล้ว ก็คือ การปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ
แต่อยู่ที่ท่านจะใช้เครื่องมือนั้นอย่างถูกต้อง หรือไม่ เท่านั้นเอง

ผู้เขียน เคยอ่านหนังสือที่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเขียนไว้ว่า
อีกไม่กี่ร้อยปี จะมีพระมหากษัตริย์ท่านหนึ่ง เดินทางจากทางเหนือ มาบูรณะ วัดท่าซุง
ขณะนี้ วัดท่าซุง ก็ยังคงเป็นปกติดี
แสดงว่า หลังจากนี้ไม่นานนัก คงต้องมีเหตุการณ์ที่ทำให้ วัดท่าซุง ร้าง
ซึ่งปัจจุบัน วัดท่าซุง ยังมีคนไปทำบุญถือศีลปฏิบัติธรรม อย่างไม่ขาดสาย
แต่จะมีเหตุใดเล่า ที่ทำให้วัดร้างได้ นอกจาก...
(อาจจะเกิด สงครามนิวเคลียร์ ระหว่าง ชาติอาหรับ และ อเมริกา ซึ่งเป็นชนวนให้เกิด อภิมหาสงครามครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบถึง ประเทศไทย ก็เป็นได้)

 
          
การเตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่

ก่อนการเกิด ภัยธรรมชาติ ครั้งใหญ่ 15 วัน
โลก จะเอียงก้มหัวให้ ดวงอาทิตย์ มากขึ้น เรื่อย ๆ
และส่งผลให้ น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือ ละลายจะนำไปสู่ คลื่นยักษ์ ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน

เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ เป็นเวลา 49 วัน ในระหว่าง เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน
ฝนตก ครั้งใหญ่ ทั่วโลก (ระยะชำระล้าง เป็นเวลา 7 วัน)
ระยะเวลา การเกิดภัยธรรมฃาติ ที่รุนแรงของโลก รวมแล้ว มีระยะเวลา ทั้งสิ้น 56 วัน

ใน 3 วันแรก จะเกิด สงครามนิวเคลียร์ ที่ทวีปเอเชีย ในประเทศที่เป็นอริต่อกัน

ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

1. เกิดน้ำท่วม ครั้งใหญ่
2. พายุถล่ม
3. แผ่นดินแยก และ แผ่นดินไหว
4. ภูเขาไฟระเบิด
(จังหวัดภาคกลาง 2 ลูก, ภาคเหนือตอนล่าง 3 ลูก อีกทั้งที่จังหวัดราชบุรี น่าน แพร่ อ.ร้องกวาง)
5. คลื่นยักษ์ จากทะเล
6. โรคระบาด ที่สุดจะเยียวยา
ได้แก่ Virusterria, อหิวาตกโรค สายพันธุ์ใหม่ ผู้ที่ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตภายใน 6 วัน
7. คลื่นเสียง ที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิต ยังไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมาก่อน
8. อดอยากขาดแคลนอาหาร

การเตรียมตัวเตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว

1. เตรียม อาหารและน้ำดื่ม ไว้ที่บ้าน อย่างน้อย 3 - 6 เดือน
2. เครื่องนุ่งห่ม เพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ
เพราะในช่วงเวลานั้น อากาศ จะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
4. ที่อยู่อาศัย
5. ยารักษโรค
6. ด่างทับทิม และ คาราไมล์ (จำเป็นมาก)
ห้ามกินอาหาร ที่ไม่ได้ล้างด้วย ด่างทับทิม เพราะจะมีทั้ง เชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี
ส่วน คาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนัง ที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา
แต่เมื่อทา คาราไมล์ แล้วจะหายได้ อย่างน่าอัศจรรย์
7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
8. เครื่องช่วยชีวิต
9. แสงสว่าง เช่น เทียน ตะเกียงพายุ
(เวลานั้น ท้องฟ้า จะมืดมิด 7 วัน = 1 ราตรี และ จะมืดมิด 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
10. เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

การดูแลตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติ

1. ห้ามออกนอกบ้าน โดยเด็ดขาด
ใครมาเคาะประตูบ้าน ก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนนั้น จะเป็นญาติสนิท หรือคนที่เรารู้จักก็ตาม
2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค และสารเคมี ที่มนุษย์สร้างขึ้น
3. ห้ามลุยน้ำ หรือ แช่น้ำนาน ๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้ต่างทับทิมล้างทุกครั้ง
4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น
เพราะช่วงเวลานั้น ประตูมิติของโลกทั้งสามภพ จะถูกเปิดเป็นครั้งแรก
ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่อง ผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น
คนที่มาเยือน อาจเป็น ผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมของเราจำแลงมาก็เป็นได้
และ ห้ามอยากรู้อยากเห็น โดยเด็ดขาด
5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
6. ห้ามกินผัก ที่ยังไม่ได้แช่ ด่างทับทิม
7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ จระเข้
10. ห้ามอยู่ตึกสูง เกิน 3 ชั้น เพราะ ตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง

การเตรียมจิตวิญญาณ

1. ชำระกรรม ให้เบาบาง โดยหยุด โลภ โกรธ หลง ทำจิตใจให้สงบเบิกบาน
เพราะวันนั้น จะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตกเสียชีวิต เป็นจำนวนมาก
เพราะเสียงที่ดังกึกก้อง ไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก
ดังนั้น ต้องปล่อยวาง ทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก
2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
3. ฝึกการละวาง
4. มีสติรู้ตัวตลอดเวลา
5. ฝึกการทำโฆษกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือ ผู้ที่เราล่วงละเมิด

การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย

1. ได้ยินเสียงใด ให้ละวางเสียงนั้น / รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น
ต้อง ไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงคนข้างบ้านร้อง เพระกำลังจะตาย
หรือได้ยินเสียงใด ที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยิน แล้วผ่านเลยไป
หากละวางไม่ได้ จะเกิดอาการ "ตายก่อนตาย"
(รู้ว่า ตนเอง จะต้องตายแน่ ๆ หรือ การตายทั้งเป็น) 
2. ยอมรับให้ได้ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติ ตลอดเวลา
3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้กลัวมากขึ้น
ควรหากิจกรรมทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวก เกิดความอิ่มเอิบ
4. สังเกตธรรมชาติ ก่อนนาทีวิกฤติ จะเกิดขึ้น

ลางบอกเหตุก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะที่ 2)

ท้องฟ้า มืดมิด ผิดปกติ ใบไม้ จะพลิกคว่ำพลิกหงาย แลดูหดหู่
สัตว์ทั้งหลาย จะไม่ปรากฏกายให้เห็น
แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้าน จะเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกลนผิดปกติ หรือบางตัว จะนอนนิ่งน้ำตาซึม

เรื่องเวลาที่แน่นอนนั้น ขอบอกตามตรงว่า ไม่ทราบ
เพราะจริง ๆ แล้วน่าจะเกิด ตั้งแต่ ค.ศ. 1999 ตามที่ นอสตราดามุส ทำนายเอาไว้
แต่เมื่อดูจากเหตุการณ์ ในปัจจุบันแล้ว
ภัยธรรมชาติที่รุนแรง อย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน ในชีวิตนี้
และจากคำบอกเล่าของ ครูบาอาจารย์ต่าง ๆ
คิดว่า จะเกิดภายใน 1 - 3 ปีนี้

เป็นกรรมของสัตว์โลกนะ
ครูบาอาจารย์ ท่านเคยบอกว่า ระบบ จะเริ่มล้างมนุษย์ ปลายปี 47
(ทีแรกคิดว่า ไม่มีอะไรเกิดแล้ว จิตเกือบเผลอ ปรามาสครูบาอาจารย์)
แล้วจะมีเหตุอื่น มาล้างเรื่อย ๆ
ด้วยระบบภัยพิบัติทาง ดิน น้ำ ลม ไฟ โรคระบาด และ อุบัติภัยสงคราม
และจะหนักขึ้น เรื่อย ๆ จน พระจักรพรรดิ ลงมา ภัยพิบัติ จึงจะสงบ

ต่อไป ที่จะวิบัติหนัก ๆ ก็คือ ไต้หวัน ญี่ป่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา ฯลฯ

เคยถาม ครูบาอาจารย์ว่า ไม่เคยมีใครเปลี่ยน ได้เลยหรือ
ท่านบอกว่า " ไม่ได้ "
ท่านว่า " ปูยีเว้า ก็ปาน พระเจ้าเว้า นั่นแหละ
ในโลกนี้ ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ เพราะ กรรมของมนุษย์ เป็นแบบนั้น "

สำหรับ ประเทศไทย
ต่อไป กรุงเทพฯ ก็มิใช่จะปลอดภัย
เพราะฝ่ายรักษาภายในของ กทม. เริ่มถอนระบบออกไปมากแล้ว
และต่อไป ภาคใต้ แทบจะไม่เหลือ จะเป็นเกาะเป็นแก่ง ทั้งหมด

เราเข้าใจว่า ภัยพิบัติ ในภาคใต้ เป็นสัญญาณของ ยุคจักรพรรดิ ที่กำลังจะเริ่มต้น
ที่จริงมีสัญญาณอย่างอื่นด้วย แต่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล
เช่นเรื่อง ธาตุแก้วเจ็ดประการ ที่เริ่มเข้ามาสู่ระบบแล้ว
และมีสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ที่กระจัดกระจายกันอยู่ในหลายประเทศ เป็นต้น
ผู้ที่ไม่มีหน้าที่ และ เข้าไม่ถึง ระบบธาตุเหล่านี้ จะไม่สามารถเข้าใจได้

ถ้าใครมี จิตที่เอ็กซเรย์ธาตุได้ ก็จะเข้าใจ ว่าอะไรเป็นอะไร
อย่าง แก้วมังกร และ แก้ววิเศษของเทวดา ก็อาจเป็นของไร้ค่า ในโลกมนุษย์ เพราะความไม่รู้

ครูบาอาจารย์ เคยเล่าว่า
แค่นาค โก่งหลังขึ้นมา มนุษย์ก็ตายเป็นเบือแล้ว ต่อไป บางที่ก็จะหายไปทั้งเกาะ
นี่ยังไม่นับ ภัยพิบัติจากท้าวกกนาค แถวลพบุรี ที่ในไม่ช้า (ช่วงท้าย ๆ ของภัยพิบัติ)
จะลุกขึ้นมา (ภายใน) เพื่อไปรอรับ พระจักรพรรดิ
ขณะที่ ทหารลิง 18 กองพล ที่เคยเฝ้ายักษ์ตนนี้ อยู่ที่อื่น

ครูบาอาจารย์ ท่านว่า ยักษ์กกนาค ตนนี้ มีพิษมาก
แค่พลิกตัว พิษของยักษ์ ก็จะทำให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงได้
มนุษย์ จะตายไปครึ่งโลก แต่คนที่มีศีล ก็ไม่เป็นไร

เราค่อนข้างมั่นใจว่า
ภายใน ปี 2560 ประเทศไทย จะได้เป็นมหาอำนาจ
และ ไทย กับ ลาว จะรวมกันเป็นหนึ่ง (ประเทศเดียวกัน)
ท่านไหนขยันหมั่นเพียร รักษาศีล ภาวนา ก็จะได้มีโอกาสอยู่ในยุคใหม่ ต่อไป
ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอ ก็คงจะต้องไปตามวิถีกรรม ของตนเอง

ศูนย์กลางโลก ศูนย์กลางศาสนา อยู่ในประเทศไทย

ซึ่งต่อไป ที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย จะเป็น ใจกลางโลก ใจกลางศาสนา ในยุคจักรพรรดิ
ทั้งโลก จะถูกปกครอง โดย 3 ร่มโพธิ์ ศรีอัญญาสิทธิ์ และ อัญญาธรรม
พระจักรพรรดิ จะเป็นพระมหากษัตริย์ของโลก
อย่างที่พวกยิว เขาคิดจะครองโลกกันนั้น ไปไม่ถึงดวงดาวหรอก
เพราะ วิทยาศาสตร์ ถึงทางตันแล้ว

เหตุที่เกิด ในภาคใต้ ซึ่งเป็นเขต พระพุทธศาสนา ยังรุนแรงขนาดนี้
ต่อไป เหตุที่เกิดในเขตศาสนาอื่น ๆ นั้น จะรุนแรงกว่านี้มาก
และความหายนะ ที่จะเกิดขึ้นนั้น ก็จะมากด้วย

ถ้าหากศึกษาถึง เชื้อของจิตวิญญาณเดิม ของการมาเกิด ก็จะเข้าใจ
ว่าอย่าง อิสลาม และ คริสต์ นั้น
เชื้อจิตวิญญาณเดิม หรือ ต้นธาตุของจิตวิญญาณ ของพวกนี้ เป็นพวกยักษ์ตระกูลต่าง ๆ
ดังนั้น ที่ครูบาอาจารย์ ท่านว่า
พวกยักษ์นอกศาสนา เขาตีกันนั้น ก็พวกยักษ์เหล่านี้แหละ ที่มีปัญหา
และพวกยักษ์เหล่านี้ ก็มาเกิดมาก ในยุคนี้

ส่วนในเขต ประเทศไทย และ ประเทศใกล้เคียง จะเป็น เชื้อนาค เชื้อเทวดา เชื้อครุฑ
คนในเขต ประเทศไทย ส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่กับ การเกิดเป็นเชื้อต่างๆ เหล่านี้
ขึ้นอยู่กับ ชาติที่ทำบารมีมาเด่น ๆ ว่าเคยทำบารมี ในภพภูมิไหนมามาก
ก็จะมีความเกี่ยวพันกันกับ ภพภูมิเหล่านั้น

และเมื่อถึงเวลา ก็จะเป็นการทำบารมีร่วมกัน ระหว่างภพภูมิ
และบางครั้ง การทำงานจากภายใน ก็จะส่งผลออกมาสู่ภายนอก
แต่คนไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นภายใน
ที่เห็นก็คือ ผลที่แสดงออกมาภายนอก และ พยายามอธิบายกันด้วยเหตุและผล ทางวิทยาศาสตร์
ซึ่งเป็นการ รู้นอก แต่ไม่รู้ใน
คล้าย ๆ กับวิทยาศาสตร์ พยายามอธิบายเหตุผลภายนอก
แต่ไม่เข้าใจถึง กฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นเหตุ อยู่ภายใน เป็นต้น
นี่คือ รู้ไม่แจ้ง ในเรื่องนั้น ๆ ก็เลยเกิดความ "ประมาท"

ต่อไปจะมี พระจักพรรดิ เป็นผู้ปกครองโลก
พระยาธรรมิกราช จะคล้าย พระสังฆราช
และจะมี พระโพธิสัตว์ อีกองค์หนึ่ง จะทำหน้าที่คล้ายกับ นายกรัฐมนตรี

ซึ่ง สามร่มโพธิ์ศรี ก็คือ สามโพธิสัตว์ ที่ลงมาทำหน้าที่ ดูแลพระพุทธศาสนา นั่นเอง
และก็มีเหล่า อัญญสิทธิ์ อัญญธรรม ที่ตามลงมา ทำหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง
บางคน ก็รู้ตัวแล้ว บางคน ก็อาจยังไม่รู้ตัวเอง
ถึงเวลาแล้ว ก็คงจะได้เห็นว่า ของจริงนั้น เป็นอย่างไร
ซึ่งบางท่าน จะมีชื่อเสียงใน หมู่เทพ เทวดา นาค ครุฑ กุมภัณฑ์ ฤาษี มุนี ดาบส ฯลฯ

พวกเขาเหล่านั้นก็รอ ยุคพระยาธรรมิกราช แต่พวกมนุษย์ ไม่รู้จัก
เพราะท่านเหล่านี้ จะอยู่อย่างเงียบ ๆ และ ลี้ลับ
ครูบาอาจารย์ ท่านเคยเปรย ๆ ให้ฟังว่า
สำหรับผู้ทำบารมีเข้มข้นแล้วนั้น " ดังบ่ดี ดีบ่ดัง "
 
จากที่ครูบาอาจารย์ ท่านเล่าสู่กันฟัง
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่มีใครที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้
เพราะ กรรมเป็นตัวกำหนด และ ยุคพระยาธรรมิกราช ก็เป็นพุทธประเพณี
เป็นเหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้น ในกึ่งกลางพระทธศาสนา ในยุคของพระพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์

อย่างใน ยุคพระเวสสันดร
(ซึ่งเป็นช่วงประมาณกึ่งกลางศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง)
หลังจาก พระเวสสันดร ได้พรแปดประการ จากพระอินทร์แล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิด ยุคพระยาธรรมิกราช หรือ ยุคพระจักรพรรดิ ขึ้น
ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่า ลูกชายพระเวสสันดร จะเป็น พระจักรพรรดิ ในสมัยนั้น

ในยุคร่วมสมัย ในปัจจุบันนี้
มีบุคคลผู้หนึ่ง ทำทานบารมี จนได้พรแปดประการ จากพระอินทร์ แล้วเช่นกัน
ก็พอจะอนุมานได้ว่า ยุคพระยาธรรมิกราช นั้นเข้ามาใกล้ปลายจมูกแล้ว

ใครที่คิดจะทำบุญกุศลอะไร ก็ให้รีบเร่งทำ
หากเมื่อใด ที่ผู้ที่เขาได้พรพระอินทร์ เขาทำอธิษฐานบารมี เพื่อดูแลพระศาสนา
(ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรารถนาพุทธภูมิ) 
ระบบที่เขาทำหน้าที่ภายใน เขาก็จะทำงาน ตามลำดับ
เมื่อถึงตอนนั้น จะเห็นคุณค่า ของศีลธรรม ของศีลห้า ศีลแปด ของบุญบารมี
ที่แต่ละท่าน บำเพ็ญเพียร สั่งสมมา

ให้ลองนึกถึง เหตุการณ์คลื่นยักษ์ในภาคใต้ ดูว่า
คลื่นยักษ์ขนาดไหน ที่จะทำให้ ด้ามขวานไทย เหลือเป็นเกาะเป็นแก่ง
และคลื่นยักษ์ขนาดไหน ที่จะสามารถทำให้ เกาะขนาดประเทศไต้หวัน หายวับไปได้ ในพริบตา
เมื่อไหร่ก็ตาม ที่นาคใหญ่ทำงาน จะสั่นสะเทือนไปทั้งโลก

หากจะเทียบ เหตุการณ์ในภาคใต้ ที่ผ่านมา เป็นแค่นาคใหญ่ โก่งหลัง หรือสะดุ้ง เพียงเล็กน้อย
ลองจิตนาการดูว่า หากพวกนาคบางพวก มีหน้าที่ทำฤทธิ์ เพื่อล้างพวกผู้มีศีลธรรมไม่เพียงพอ สำหรับอยู่ในยุคพระธรรมบนโลกนี้
ก็จะเหลือคนไม่มาก อย่างที่พระสูตรบอกไว้

และทั้งหมดนั้น...ก็คือ เรื่องราวที่ผสมปนเปกันไป
ขณะที่ ต้นฉบับอันแท้จริง ของ อาจารย์นันทะ
ยังคงถูกเก็บรักษาไว้ยัง เทวสถานพระศรีนาคาทุรคาเทวี แห่งนี้

และนอกเหนือไปจากนี้
อาจารย์นันทะ ยังได้ทำนายไว้อีกด้วยว่า
ประเทศไทย จะเป็นผู้ที่ได้สร้าง องค์พระศรีมหาคณาบดี พระพิฆเนศวร์ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ส่วนใคร จะเป็นผู้มาสร้าง หรือ จัดสร้างนั้น คงต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ในคำทำนายนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น