วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

สาส์นจาก หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร

คำแจ้งเตือนวันชำระล้างโลก
( พ.ศ. 2549 - 2562 )
จาก หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร แจ้งไว้แก่ หลวงปู่ภารตะฤาษี (บัวขาว)

ขอยกกลอน สอนใจ ในยามยาก
ช่วงลำบาก ไว้เป็น อุทาหรณ์
โลกทั้งโลก กำลัง จะสั่นคลอน
เพื่อสะท้อน ผลกรรม คนทำมา
จากวันนี้ ต่อไป ภายภาคหน้า
ในไม่ช้า วิบากกรรม วิ่งเข้าหา
ให้โหยหวน คร่ำครวญ แสนเวทนา
คนทั่วหล้า ต่างล้มหาย ตายเป็นเบือ(1)
หากไม่เชื่อ ให้เผ้าดู จะรู้สึก
ต้องสะอึก เมื่อไม่มี สิ่งใดเหลือ
ทุกวันนี้ มีใช้ อย่างเหลือเฟือ
จะไม่เหลือ ให้ใช้ ในบัดดล
คนหลายคน วกวน เพื่อเสพสุข
ไม่เคยทุกข์ ร้อนใจ ให้ขัดสน
เฝ้าเอาเปรียบ เบียดเบียน หมู่ผู้คน
ไม่เคยสน เวรกรรม มันมีจริง(2)
ไม่ว่าใคร ใดใด ในโลกนี้
ชั่วหรือดี ทุกเยาว์วัย ชายหรือหญิง
สัจธรรม เท่านั้น คือความจริง
ทุกสรรพสิ่ง หนีไม่พ้น ผลของกรรม
คนคิดดี ทำดี ย่อมมีสุข
พ้นกองทุกข์ ชีวี ไม่แปรผัน
พาพ้นทุกข์ สิ้นวิบัติ ในฉับพลัน
บุญเท่านั้น ที่หนุนนำ คนทำดี(3)
ผิดกับคน ที่ทำผิด และทำพลาด
ต้องถึงฆาต บาปกรรม ซ้ำเป็นผี
ครั้งอยู่ดี มีสุข ไม่ใฝ่ดี
พอจะม้วย ชีวี แล้วใฝ่บุญ
กุศลหนุน บุญใด ไหนจะช่วย
มีแต่ซวย เท่านั้น ที่เกื้อหนุน
เกิดเป็นคน ไม่เคยคิด ตอบแทนคุณ
จะเอาบุญ ที่ไหน มานำพา(4)
อีกไม่นาน ก็ถึง กึ่งพุทธะ*
เป็นจังหวะ รอยต่อ ศาสนา
สิ่งทุกสิ่ง ย้อนกลับ สู่เวลา
ทรัพย์ไร้ค่า คนยึดจิต อภิญญา
ถิ่นกาขาว ยาวนาน จะผันผ่าน
พระศรีอารย์ อริยะเมตไตร เข้ามาหา
ศรีวิไล ใฝ่ธรรม ทุกเวลา
เทวดา ปกป้อง ตลอดกาล(5)
อยากอยู่ดี มีสุข ถึงยุคนั้น
ต้องช่วยกัน สร้างกรรมดี ไว้สืบสาน
ภัยวิบัติ โลกสลาย อีกไม่นาน
สิ้นคนพาล เหลือคนดี ไม่กี่คน
คำยืนยัน ปู่ฤาษี ภารตะ
ให้สละ อย่ายึดมั่น อย่าสับสน
ให้รู้ไว้ ภัยจะถึง ทุกตัวตน
ให้ทุกคน หลบลี้ หนีออกมา(6)
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จะบังเกิด
จำไว้เถิด จะสิ้นยุค กลุ่มเศรษฐี
ที่คดโกง ฉกฉวย จนได้ดี
จะสิ้นที หมดท่า พาตรอมตรม
บาปและกรรม ตามซ้ำ ไม่ย่อหย่อน
กินหรือนอน เดินนั่ง ช่างขื่นขม
ถึงรวยทรัพย์ เคยยิ่งใหญ่ ยิ่งระทม
ก็จะล้ม จมดิ้น สิ้นกันไป(7)
จากสี่เก้า เข้าถึง ปีหกสอง 
ฟ้าจะร้อง คำราม สุดหวั่นไหว
ธรณี จะโกรธ เป็นฟืนไฟ
พระพรายไซร้ จะถาโถม โจมดีเรา
พระคงคา จะไหลบ่า หุ้มเปลือกโลก
ดาวนอกโลก พุ่งชน คนอับเฉา
ให้รีบลุก และตื่น เถิดพวกเรา
รีบเดินหน้า ถึงธรรม ค้ำชีวา(8)
ภาคกลางหนึ่ง ใต้หนึ่ง พีงจำไว้
จมอยู่ใต้ คงคา แน่นักหนา
ผืนแผ่นดิน คลุมด้วยน้ำ สุดลูกตา
ชาวประชา ไร้แผ่นดิน สิ้นชีพวาย
เหนืออีสาน ตอนล่าง ต่างรันทด
แผ่นดินลด หดหู่ ไม่รู้หาย
เหลือก็น้อย คนบุญ ที่รอดตาย
นอกนั้นไซร้ ไร้ชีวิต วิบัติภัย(9)
บนท้องฟ้า มืดมน ฝนห่าใหญ่
ห่อหุ้มไว้ เจ็ดราตรี อรุณฉาย
สัตว์เล็กใหญ่ ดับดิ้น แทบวอดวาย
ที่ไม่ตาย กลายมีพิษ ปลิดชีพกัน
พายุลม สลาตัน นับว่าร้าย
ก็ไม่วาย ต้องแพ้ ลมกรรมหันต์
ฝนที่ไหน พัดที่ใด ตายฉับพลัน
ไม่มีควัน มีแต่พิษ ชีวิตวอดวาย(10)
หลังจากนั้น คนที่เหลือ จะแปรเปลี่ยน
บำเพ็ญเพียร ภาวนา ไม่ขาดสาย
ทุกข์และโศก โลกมนุษย์ จะผ่อนคลาย
ศรีอริยะเมตไตร จะบรรเจิด เกิดขึ้นพลัน
สร้างมนุษย์ สร้างโลก ให้ผุดผ่อง
ตามครรลอง ศรีวิไล ให้เฉิดฉันท์
สิ้นทุกข์โศก โรคภัย ไม่โรมรัน
จิตเท่านั้น ที่วัดใจ ให้อยู่ยืน(11)
ทรัพย์เงินทอง ก่ายกอง เต็มไปหมด
ช่างรันทด ไม่มีค่า เท่าผ้าผืน
สิ่งที่หา และใฝ่ ทุกวันคืน
ที่ยั่งยืน คือจิต ผ่องอำไพ
อาศัยกรรม ทำดี ช่วยชูค้ำ
ให้ได้นำ สู่ภิญญา น่าสดใส
ทั้งอิ่มเอิบ อิ่มกาย อิ่มจิตใจ
พระยาธรรม นั่นไซร้ คือกฏเกณฑ์(12)
หากไม่เชื่อ สิ่งที่กล่าว ชาวโลกเอย
จำไว้เลย นี่คือแท้ แน่นักหนา
เฝ้าติดตาม การเปลี่ยนแปลง ทุกเวลา
จะรู้ว่า เริ่มตั้งเค้า เข้าสู่กาล
พายุโหม น้ำท่วม แผ่นดินไหว
โลกทั้งใบ ไม่แน่น ไร้แก่นสาร
ธาตุดินน้ำ ลมไฟ ถูกรุกราน
จากวิญญาน กาลอดีต กรีดทำลาย(13)
คนทั่วโลก จะพบ ภัยพิบัติ
สารพัด ปัญหา ให้แก้ไข
ทั้งเรื่องโลก เรื่องคน จนวุ่นวาย
แก้อย่างไร ก็ไร้ค่า พาล้มครืน
เป็นด้วยเหตุ อาเพศ โลกใบนี้
ถูกย่ำยี จากมนุษย์ สุดทนฝืน
มุ่งทำลาย ล้างผลาญ ทุกค่ำคืน
ไม่อาจฝืน ขืนปล่อยไว้ ใจโลกตรม(14)
  
สารชมรมศาสนาและการกุศล เรื่องที่ 295
คำแนะนำจากหลวงปู่ใหญ่

ด้วยมีบุคคล ที่เคารพศรัทธา ต่อ หลวงปู่ใหญ่ ( หลวงปู่เทพโลกอุดร )
ได้กรุณาส่งเอกสารที่เป็น สาส์นจากหลวงปู่ใหญ่ มาถึงผู้เขียนอย่างเฉพาะเจาะจง
เพื่อขอให้ช่วยเผยแพร่ด้วยนั้น
ผู้เขียนจึงขอคัดลอกนำ ถ้อยคำของหลวงปู่ใหญ่ มาให้อ่านกันดังนี้

“ หมู่มวลมนุษย์ ทั้งหลาย เจ้ามิอาจ รู้วันตาย
วันแห่งการมีชีวิต ของพวกเจ้า เหลือกันอีก สักเท่าใด
ใยยังห่วง ความอยาก ทั้งหลายทั้งปวง
เหตุเพราะ ความเป็นมนุษย์ กระนั้นหรือ
หรือเพราะ กิเลสตัณหา หรือเป็นเพราะ สิ่งใดกัน ”

มวลมนุษย์ทั้งหลาย
ผู้ดับกิเลสได้ เขาเรียก สัพพัญญู (ผู้รู้ทุกอย่าง ผู้รู้ทั่ว – ผู้เขียน)
แต่การเป็น สัพพัญญู นั้นมิใช่ง่าย แต่ก็ยังมี สัพพัญญู มิใช่น้อย
ขอเพียงแต่พวกเจ้าใฝ่ที่จะเป็น สัพพัญญู

ขอเพียงพวกเจ้า หลุดพ้นจากบ่วงกิเลส ทั้งหลายทั้งปวง
ความเป็น สัพพัญญู นั้นจะไปไหนเสีย
ขอให้พวกเจ้าทั้งหลาย หลุดพ้น บ่วงกรรม บ่วงกิเลส ที่สะสมกันมา นับล้านชาติ
สร้างกรรมกันมา มิรู้เท่าใด ให้รู้จักตนเอง แต่ชาตินี้ไซร้

เป็นไปได้อย่างไรที่ว่า พวกเจ้ามีกรรม
อีกไม่นาน พวกเจ้าทั้งหลาย จะได้เห็นฤทธิ์ของกรรม ที่พวกเจ้าสร้างกันเอาไว้เอง
ไม่มีผู้ใดรอดพ้น ในเรื่องกรรมได้
เพียงแต่ว่า เรื่องของกรรมนั้น
เป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน ยากนักที่ความเป็นมนุษย์ จะสามารถรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้

เพราะมนุษย์ เป็นภูมิที่อยู่จุดกึ่งกลาง ของหนทางตามวัฏจักร บริเวณภูมิของมนุษย์
เป็นบริเวณที่ ผู้อยู่ภพภูมิใด ก็ปรารถนา และ ต้องการ
เพราะเป็นภูมิ ที่ให้โอกาสมาเกิด เพื่อพบกับสภาวะแห่งการหลุดพ้นได้
แต่เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ กว่าจะพบหนทาง ก็ช่างยากเหลือเกิน

เพราะบ่วงกิเลส ทั้งหลาย มันรุมล้อมพวกเจ้ากันอยู่ จนยากนักที่พวกเจ้า จะตัดมันไปได้
กิเลส รุมล้อมยิ่งกว่าสิ่งใด เหมือนเชือกมัดพวกเจ้าเอาไว้
ต้องหาวิธีด้วยตนเอง แก้บ่วงนั้น ให้หลุดออกมาให้ได้
ไม่มีใครแก้ให้พวกเจ้าได้ นอกจาก ตัวของเจ้าเอง

อีกไม่นานนี้ บ่วงทั้งหลายทั้งปวง ที่พวกเจ้าผูก จะกลายเป็นสิ่งที่ถูกลืม
จะเหลือ สติสัมปะชัญญะ กันแค่ไหน เพียงไร ให้พวกเจ้าระวังตนเองเถิด
เพราะจากนี้ ไม่แน่ว่า ทุกสิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อใด
จงเตรียมใจเอาไว้เถิดทุกคน เวลานั้น ใกล้เข้ามาทุกที

ไม่มีผู้ใดคาดคิด
คิดเพียงแต่ อาจจะเป็นไปได้ หรือไม่ก็ไม่เกิด หรือจนกว่าทุกอย่างจะเกิด
หากใครคิดเช่นนั้น น่าสงสารเป็นยิ่งนัก
พวกเจ้าทั้งหลาย ความตาย กำลังมาเยือนพวกเจ้า ทุกชีวิต
นับแต่นี้ไป จงเตรียมตัว เตรียมรับสถานการณ์นั้นเถิด
พวกเจ้าทั้งหลาย ควรจะรู้ว่า ตนเองนั้น เป็นผู้ไม่รู้

มีการเตือนมากมาย
แต่บางคน หาได้ใส่ใจไม่ มัวแต่หลงระเริง กับความอยาก และ วุ่นวายอยู่กับชีวิตประจำวัน
เราเตือนพวกเจ้าแล้ว
ตั้งแต่ พุทธทำนาย จนกระทั่งบัดนี้ จนกระทั่ง ต้องมีการเยือนจาก ท่านมนุษย์ต่างดาว

การเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งบอกเหตุ แต่มนุษย์ มัวแต่สนใจ การกินการอยู่
แม้แต่จนบัดนี้ เวลาเหลือน้อยเต็มที พวกเจ้าก็ยังหาเชื่อไม่
บางครั้ง พวกเจ้าอาจจะไม่เชื่อในเรื่องนี้ เพราะกรรมของพวกเจ้าก็ได้
กรรม ที่ เชื่อ ยาก

ขอให้พวกเจ้า ที่จะต้องเหลือรอด ช่วยบอกหมู่มวลมนุษย์ทั้งหลายด้วยว่า
จงตื่นเถิด อย่ามัวหลับอยู่เลย ตื่นมาเพื่อเตรียมรับสถานการณ์เถิด
ขอให้พวกเจ้าหมู่มวลมนุษย์ทั้งหลาย
จงเตรียมตัว ที่จะพบกับสิ่งที่ พวกเจ้าไม่คาดคิด พวกเจ้านึกไม่ถึง เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงจริง ๆ
เหลือเวลาของพวกเจ้า แห่งการมีชีวิต อีกไม่นาน

หลังจาก คำเตือนนี้
หวังว่าพวกเจ้า หมู่มวลมนุษย์ทั้งหลาย ที่จะเป็นผู้รอด
จงตั้งอยู่ในศีลธรรมเถิด อย่ามัวไม่เชื่ออยู่เลย
เมื่ออ่านแล้ว คิดพิจารณาเอาเองเถิด จะมีความเป็นจริง หรือไม่ เพียงใด

บางเรื่อง พวกเจ้า คงมิทันได้เห็น
บางอย่าง พวกเจ้า กำลังจะได้เห็นกับตา ของพวกเจ้าเอง
จงครองสติของพวกเจ้า เอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน อย่ามัวสงสัย จงเตรียมตัวเตรียมใจ มิดีกว่าหรือ

ขอให้พวกเจ้าทั้งหลาย
ผู้พอจะมีหนทางมองเห็น การเป็นอริยะ จงมีสติให้การพิจารณา มากยิ่งกว่าการสงสัยเถิด
ทุกอย่าง ล้วนเกิดมาจากกรรม ที่พวกเจ้ากระทำทั้งสิ้น
ขอให้พวกเจ้าทั้งหลาย
พึงระวังความคิด จงมีสติ จะได้ช่วยชาติทางหนึ่ง

มีแต่ชาติของเจ้า กระนั้นหรือ ที่ต้องช่วย
มิใช่ แต่การบอกทางจิต ก็เหมือนคลื่นชนิดหนึ่ง ที่จูนรับกันได้ ก็เข้าใจ
แต่ถ้ารับไม่ได้ จะบอกกันอย่างไรเล่า ต้องใช้วิธีอื่น
ดังนั้น เป็นไปได้หรือ ที่เรากล่าวว่า เป็นผู้มาเตือนเจ้า

ขอให้พวกเจ้าทั้งหลาย เพียงอ่านไว้ก็พอ ไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่จงอย่ามัวแต่สงสัยอยู่
จักรวาลนี้ ความสงสัย ไม่มีหมดลงได้ ไม่มีข้อความใด ๆ จะสิ้นสุดลงได้
จงเชื่อ เมื่อเจ้าถึงซึ่งอริยะแล้วเถิด

ขอให้พวกเจ้าทั้งหลาย จงถึงซึ่ง ความเป็นอริยะ นั้นเถิด
ความเป็นอริยะ จะทำให้พวกเจ้า หลุดจากความข้องใจใด ๆ ทั้งปวง
ขอให้พวกเจ้าทั้งหลาย จงทำตนให้เป็นอริยะได้ ในเร็ววัน จะได้หมดความข้องในจิต
จิตของพวกเจ้า เมื่อเข้าถึงความเป็นอริยะ จะได้หลุดพ้นจากสภาวะธรรม กันเสียที
ความห่วงใยนี้ มิใช่ กิเลส แต่เป็น สัญญา จงสนใจจิตของตัวเองเถิด

เวลาที่เหลืออีก ไม่นานนี้
ขอเพียงพวกเจ้า เร่งฝึกจิต จะทันหรือ เพราะเวลาเหลือน้อยลง ทุกวัน
ความไม่เชื่อ ทำให้เวลา ยิ่งเหลือน้อย
ตัดความไม่เชื่อนั้น ไปก่อนเถิด จำใจเชื่อไปก่อนเถิด
เพื่อการอยู่รอดนั้น จะได้ไม่ลำบาก

จงเตรียมปัจจัย เพื่อชีวิตที่เหลือ จากการรอดตาย ของพวกเจ้า
และหลังจากนั้น การมีชีวิตอยู่ต่อ หลังจากเหตุการณ์ ให้คิดดี ทำดี มีจิตดี ก็แล้วกัน
เพราะเพียงเท่านั้น ก็เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แล้ว

ทุกอย่างอยู่ที่จิตเท่านั้นเอง
จากหลวงปู่ใหญ่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น